Bumblebee (2018) บัมเบิ้ลบี ดูหนัง อนาคตของหนังชุด Transformers คงจะจบเห่ไปพร้อมๆกับหนังเรื่องท้ายที่สุด Transformers: The Last Knight ที่เช่นเดียวกันกับเอาฉากแอ็คชันจากหนังเรื่องก่อนๆหน้ามายำรวมกัน โดยไม่คิดถึงพล็อต, เรื่องราว ที่ยังวนๆอยู่กับการตามหาแหล่งพลังบางสิ่งบางอย่าง ที่เอามาสู่การต่อสู้กันของสองพวกจากดาวไซเบอร์ตรอน ออโตบ็อทส์ – ข้างธรรมะ รวมทั้งดีเซ็พตำหนิคอน – ข้างอธรรมชเล่นเอาคำคุยของไมเคิล เบย์ ที่กล่าวว่าจับเอามือเขียนบทเป็นสิบมานั่งรวมกันในห้องอยู่ยาวนานหลายสัปดาห์ แล้วได้พล็อตที่จะเปลี่ยนเป็นหนังชุดนี้อีกสิบๆเรื่องเป็นราวกับพูดปดคำโต เพราะว่ากับเพียงแค่ที่เอามาใช้กับ The Last Knight ยังพังทลายหมดรูป’
ย้อนกลับไปในปี 1987 บัมเบิ้ลบีศึกษาและทำการค้นพบที่ลี้ภัยอยู่ในเขตพื้นที่เก็บของเก่าในเมืองขอบชายทะเลเล็กๆในเมืองแคลิฟอร์เนีย โดยที่ ชาร์ลี (เฮลีย์ สไตน์เฟลด์) สาวที่กำลังเริ่มจะมีอายุครบ 18 ปี ศึกษาค้นพบบัมเบี้ลบี ในภาวะรถยนต์โฟล์กสวาเกนสีเหลืองที่ผุพัง ผ่านศึกมาหนัก แล้วก็เร็วนี้ๆ คุณก็รู้ว่าบัมเบิ้ลบีไม่ใช่แค่รถยนต์เต่าปกติเลย สุดท้าย ไมเคิล เบย์ ผู้กำกับบ้าพลังระเบิดก็สละมือจาก Transformers หนังใหญ่ยักษ์ของฮอลลีวู้ดเสียรู้
แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่ภาคสปินออฟก็ตาม โดยการเอานักแสดง บัมเบิ้ลบี จอมลักขโมยซีนที่ผู้ชมรักรวมทั้งเอ็นดูเป็นพิเศษมาเล่ากล่าวเรื่องราวการเดินทางมาโลกคราวแรกเมื่อปี 1987 และก็แปลงโทนหนังแตกต่างจากเดิมไปพอใช้ โดยเน้นย้ำหัวข้อการปรับนิสัยแบบก้าวผ่านวัย พร้อมด้วยสร้างความสัมพันธ์กับสหายต่างสปีชีส์ ที่ติดต่อสื่อสารกันด้วยภาษากายได้อย่างตื้นตันจับใจ จะว่าไปนี่มันหนังดิสนีย์สไตล์ Monster Trucks (2016) ชัดๆเลยนี่หว่า
หนังเริ่มด้วยไอเดียของ สปีลเบิร์ก ซึ่งเป็นโปรดิวเซอร์ใหญ่ของ Transformers มาตลอดสำหรับในการที่จะหันมาเล่าแบ่งย่อยที่ไม่ต้องไปต่อความกับภาคหลักซึ่งออกสมุทรดาวไปไกลเกินพบกลับรถแล้ว และก็ได้ผู้กำกับคนใหม่มาทดลองหาประเด็นใหม่ๆให้หนังอย่าง ทราวิส ไนท์ ผู้กำกับจาก Kubo and the Two Strings (2016)หนังแอนิเมชั่นสต็อปโมชั่นจากค่าย Laika ที่เป็นขวัญใจคนอีกหลายคน ซึ่งไนท์ก็เหมาะสมกับการเติมยกเมฆราวสไตล์เด็กมองแบบงี้เลยล่ะ เนื่องจากว่าหนังสามารถสมดุลระหว่างเรื่องราวการต่อสู้ระหว่างหุ่นยักษ์ที่ไล่ล่ากันผ่านจักรวาลมาถึงโลก กับเรื่องมิตรภาพระหว่างเด็กผู้หญิงที่มีปัญหาทางบ้านอย่าง ชาร์ลี กับ บัมเบิ้ลบี ที่สูญเสียกล่องเสียงและก็ความจำไปจากการต่อสู้ได้อย่างพอดี
หนังย้ำการเล่าเรื่องที่ง่าย และก็รอแทรกสอดแหล่งที่มาที่ไปใส่เสริมกับหนังภาคหลัก อย่างว่าเพราะอะไรบัมเบิ้ลบีถึงจะต้องมาโลก เพราะเหตุไรพูดไม่ได้ เพราะเหตุไรถึงชื่อบัมเบิ้ลบี ฯลฯ อีกทั้งเอาอกเอาใจแฟนพันธุ์แท้จากฉบับแอนิเมชั่นด้วยการได้มองเห็นร่างของเหล่าหุ่นยักษ์ในฉบับเริ่มแรกอีกหลายๆตัวด้วย แม้กระนั้นด้วยท่วงท่าที่ง่ายแล้วก็อยากที่จะให้เสพสบายลื่นคอ หนังก็เลยใช้สูตรการเล่าแบบมาตรฐานมากมายๆทายใจง่ายสุดๆๆยอมละลายความสมจริงสมจังบางสิ่งไปบ้างก็ทำ รวมทั้งมีมุกรอเสริมเรื่องตลอดระยะเวลา ขำบ้าง สวยบ้าง และก็อะไรบางอย่างก็จำเป็นต้องกล่าวว่าเด็กน้อยอย่างมาก ที่มองไม่รู้เรื่อง อุตสาหะยัดใส่แบบขาดเหตุผลก็มีให้มองเห็นบ้างพอเหมาะพอควร แต่ว่ามุกที่หนังทำเป็นดีเลยจนถึงจำต้องดูอาจคือการใช้บรรดาเพลงเก่าสมัย 80 มาแทนควมคิดของบัมเบิ้ลบีซึ่งฉลาดหลักแหลมรวมทั้งมีเสน่ห์มากมาย
การแสดงของศิลปินสาวอปิ้ง เฮลีย์ สไตน์เฟลด์ ที่เคยเข้าชิงดาราสมทบหญิงออสการ์จากหนัง True Grit (2010) ตั้งแต่ยังเด็ก และก็มาส่องแสงในหนัง Pitch Perfect 2 และก็ 3 ในบทที่สาวขึ้นก็สามารถส่องประกาย ยึดสายตาจากผู้ชมได้อย่างยอดเยี่ยม เรียกว่าคุณเป็นสิ่งที่ชวนมองที่สุดบนหน้าจอได้เลยล่ะ ไม่ว่าจะบทดราม่าหรือบทขำขันก็ทำเป็นดีทีเดียว ในขณะอีกหนึ่งศิลปินที่คนอีกจำนวนไม่น้อยเป็นแฟนๆอย่าง จอห์น ซีน่า นักมวยปลุกปล้ำที่เริ่มหันมาเอาดีทางหนังมากขึ้นเรื่อยๆ ก็เล่นบททหารฝั่งโลกที่มีบทเว่อๆขบขันๆอยู่เป็นประจำ แม้กระนั้นก็กล่าวกันตามจริง บ่อยครั้งมันเหมาะสมกับผู้ที่เป็นแฟนซีน่ามามากยิ่งกว่า ผู้ใดกันเพิ่งจะรู้จักเอ็งอาจไม่เก็ตบุคลิกของแกว่าเพราะอะไรเล่นล้นๆขบขันแปลกๆจัง
และก็ในฟากฝั่งของเหล่าหุ่นทั้งหลายแหล่จะต้องเห็นด้วยว่ามีความเนียนและก็พอดิบพอดีของซีจีในแบบที่มองสบายตาสมจริงสมจัง การแสดงสีหน้าท่าทางท่าทาของผู้แสดงซีจีติดต่อสื่อสารได้อย่างยอดเยี่ยม โดยยิ่งไปกว่านั้นบัมเบิ้ลบีนั้นน่าจะเป็นอีกหนึ่งผู้แสดงที่มีคู่รักสูงที่สุดได้ง่ายๆเย็น เวลาที่ฝั่งตัวร้ายก็มีความอำมหิตแล้วก็ใช้อุบายได้ดิบได้ดี โชคร้ายที่หนังมิได้ถูกดีไซน์มาเป็นหนังสงครามสุดกำลัง ทำให้บทที่เหล่าหุ่นจะสู้กันเอาจริงเอาจังมีน้อยเกินความจำเป็นเมื่อเทียบกับความมุ่งมาด
ส่วนที่เหมาะสมที่สุดของหนังอาจจะเป็นการพักแล้วก็มีมุมมองใหม่ๆสำหรับในการเล่า Transformers บ้างภายหลังจากระห่ำกันมามากมายแล้ว แม้กระนั้นก็เป็นข้อบกพร่องในตัวเพราะเหตุว่าหนังมีฉากแอ็กชั่นเบาบางลงไปๆมาๆกกระทั่งแฟนเดิมๆหรือคนแก่ๆบางครั้งอาจจะมีความรู้สึกว่าหนังไร้เดียงสาน่ารำคาญ ซึ่งในมุมของคู่รักใหม่ๆรุ่นเยาว์หรือวัยรุ่นต้นๆตลอดจนผู้ชมที่ถูกใจหนังสายครอบครัวสายมิตรภาพคงจะหันมาเป็นแฟนของเจ้าบัมเบิ้ลบีได้ง่ายๆเย็นเหมือนกัน เรียกว่าได้อย่างเสียอย่างแลกเปลี่ยนกันไปเลย
รวมทั้งสำหรับบรรยายไทยนั้นขอวัดความรู้สึกจากการดูหนังซับไทย แล้วมาเทียบกับแบบอย่างฉบับบรรยายไทยนี้ ก็มีความรู้สึกว่าเป็นการแปลความอีกแบบของผู้แสดง ด้วยเหตุว่าเฮลีย์จะบ่งบอกถึงถึงความเป็นเด็กผู้หญิงที่จำต้องแข็งแกร่ง และก็มีความสู้ผ่านน้ำเสียงมากยิ่งกว่า หากแม้ในยามอ่อนแอพวกเราก็คิดว่าคุณจะเข้มแข็งขึ้นได้ ในเวลาที่เสียงน้อง ปัญ BNK48 นั้นจะออกมาทางน่ารักน่าเอ็นดูน่าสังเวชมากยิ่งกว่า แม้กระนั้นในด้านประสิทธิภาพเสียงนี่ไม่มีความแตกต่างจากที่มือโปรเขาบรรยายในหนังดิสนีย์เลยล่ะ มีความรู้สึกว่าคงจะได้คนละอารมณ์ซึ่งก็ไม่บางทีอาจชี้วัดได้ว่าแบบไหนดีมากกว่ากันเพราะเหตุว่าหนังก็มีฉากขายในทั้งสองประเภทให้เล่นอยู่แล้วด้วย มั่นใจว่า 2 เวอร์ชั่นนี้ต่างมีดีของตนทั้งสองนะครับ