Musical เพลงดนตรี

ดูหนังออนไลน์ Musical เพลงดนตรี

Musical เพลงดนตรี

Musical เพลงดนตรี “ชนใดไม่มีดนตรีกาล ในสันดาลเป็นคนชอบกลนัก” กลอนบทนี้มิได้เกินจริงแต่อย่างใด ไม่เพียงแต่บนโลกจริงๆ เท่านั้น เพราะในหนังคำว่า ดนตรี เพลง ก็ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งสำคัญของในหนังทุกเรื่องเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเพลงประกอบ เพลงบรรเลง ดูหนังใหม่พากย์ไทย หรือแม้กระทั่งทำนองก็ตาม และก็มีหนังอีกหลายเรื่องเช่นกันที่ใช้เพลงหรือดนตรี เป็นตัวขับเคลื่อนเรื่องราว ทั้งจะเป็นแบบดนตรีขับเคลื่อน หรือแบบ musical ก็ตาม หลายๆ ท่านอาจจะมีหนังดนตรีหรือหนังเพลงในดวงใจแตกต่างกันไป แต่ในบทความนี้ผมจะขอพูดถึงหนังเกี่ยวกับเพลงทั้ง 5 เรื่อง ที่ผมเคยดูและชื่นชอบ มาให้ทุกท่านได้ลองอ่านกัน

หากคุณกำลังมองหาหนังที่จะทำให้คุณได้รับแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ไปใช้ในการเรียนหรือการทำงานอยู่ล่ะก็ ไม่มีอะไรตอบโจทย์ไปกว่า “หนังเพลง” แล้วค่ะ เพราะหนังเพลงหลายเรื่องมักจะสอดแทรกเรื่องราวที่เกี่ยวกับความฝันและความพยายามที่จะทำฝันนั้นให้สำเร็จอยู่เสมอ และเมื่อขึ้นชื่อว่าหนังเพลง แน่นอนว่าคุณจะได้รับความบันเทิงอย่างจุใจ เพราะคุณจะไม่เพียงแค่ได้รับชมหนังสนุก ๆ เท่านั้น แต่ยังได้ฟังเพลงประกอบหนังที่ทั้งไพเราะและบอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ในหนังได้เป็นอย่างดี ด้วยเหตุนี้ หนังเพลงจึงกลายเป็นหนังโปรดที่หลายคนมักจะเปิดดูซ้ำไปซ้ำมาแบบไม่มีวันเบื่อ

และเพื่อให้เหล่าคอหนังและคนรักเสียงเพลงได้ชมหนังที่มีทั้งเนื้อเรื่องและบทเพลงที่น่าประทับใจ ในครั้งนี้ เราก็ได้ทำการคัดสรรหนังเพลงมาให้คุณเลือกชมอย่างหลากหลาย ทั้งหนังไทย หนังฝรั่ง และหนังญี่ปุ่น บอกได้เลยว่า หนังเพลง ที่เราได้นำมาฝากในวันนี้มีครบทุกรสชาติอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นแนว Romantic Comedy Drama หรือ Fantasy เราก็มีให้คุณเลือกชมค่ะ

หนังดนตรี สำหรับสร้างแรงบันดาลใจ

หนังเพลงน่าดูที่ไม่ว่าจะหยิบขึ้นมาดูเมื่อไรก็ประทับใจเสมอ ๆ แต่ขอบอกก่อนว่าหนังเพลงที่เรานำมาฝากกันในวันนี้จะไม่ใช่หนังที่มีเรื่องราวเกี่ยวข้องกับดนตรี หรือแรงบันดาลใจในการแต่งเพลง แต่จะเป็นหนังที่ใช้เพลงในการดำเนินเรื่องราวช่วงใดช่วงหนึ่งของหนังหรือทั้งเรื่องนั่นเอง ส่วนจะมีหนังเพลง หรือ หนังมิวสิคัล เรื่องอะไรบ้างนั้นมาติดตามกันเลย

Whiplash (2014)

“ ความสำเร็จบนเส้นทางดนตรีไม่ได้โรยโดยกลีบกุหลาบ ” คำนี้เป็นคำที่เหมาะกับหนังเรื่องนี้มากที่สุด Andrew Neyman นักเรียนโรงเรียนดนตรีที่ 7 ดีที่สุดในประเทศที่ฝันใหญ่อยากจะเป็นมือกลองวงดนตรีแจ๊สที่มีชื่อเสียง Andrew ต้องฝึกซ้อมอย่างหนักหน่วงชนิดเลือดตกยางออก ต้องทนกับวิถีฝึกซ้อมของครู Terence Fletcher ครูที่กดดันเพื่อทำให้ Andrew เพื่อให้เขากลายเป็นสุดยอดมือกลอง หนังเรื่องนี้หากจะบอกอะไรแก่นักดนตรี คงบอกให้เขาเหล่านั้น ทนรับกับคำด่าว่า คำดูถูก หรือความกดดันรอบด้าน และไม่ยอมที่จะหยุดพักหรือล้มเลิก

Crossroads

ถ้าคุณเป็นมือกีต้าร์ต้องไม่พลาดเรื่องนี้อย่างแรง เพราะหนึ่งในดารานำในเรื่องนี้คือ สตีฟ วาย พ่อมดแห่งวงการกีต้าร์ โดยดารานำคือ ราล์ฟ มาคซิโอ้ จากเรื่องคาราเต้คิดส์ มารับบทเป็น ยูจีน เด็กหนุ่มที่มีพรสวรรค์ทางกีต้าร์เป็นเลิศ พ่อแม่จึงส่งไปเรียนกีตาร์คลาสสิคยังโรงเรียนอันดับหนึ่งในนิวยอร์ค แต่เจ้าตัวหลงใหลในเพลงบลูส์จนหนีออกจากหอพักไปสู่ดินแดนต้นกำเนิดเพลงบลูส์ และหากินด้วยการเล่นกีต้าร์ร้องเพลงจนได้พบชายแก่เป็นเพื่อนนักดนตรีคู่ใจ ถึงทราบความจริงว่าจะเป็นสุดยอดมือกีต้าร์แห่งบลูส์ได้นั้นต้องขายวิญญาณให้กับซาตานเสียก่อน

ชายแก่นั้นเคยขายวิญญาณมาแล้วและเบื่อชีวิตนักดนตรีอยากกลับไปเป็นคนธรรมดาจึงต้องดวลกีต้าร์เพื่อไถ่วิญญาณคืน โดยพระเอกขออาสาสู้แทนชายแก่เพื่อนของเขาซึ่งคู่ต่อกรก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเขาคือ แจ็ค บัตเลอร์ ที่รับบทโดยสตีฟ วายนั่นเอง หนังเรื่องนี้อาจทำรายได้ไม่มากแค่ 5.8 ล้านเหรียญเพราะเป็นหนังเฉพาะกลุ่ม แต่ฉากดวลกีต้าร์ในตอนจบรวมไปถึงเพลงบลูส์กว่า 30 เพลงที่ประกอบภาพยนต์เรื่องนี้กลับเป็นที่ฮือฮาจนถึงปัจจุบัน

Once

เข้าฉายเมื่อปี 2006 และโกยรายได้ไปถึง 23.3 ล้านเหรียญ สร้างความประทับใจไปทั่วโลกกับความรักของหนุ่มนักกีต้าร์ข้างถนนที่ไม่กล้าร้องเพลงที่ตัวเองแต่งจนมาพบกับนางเอกที่ชอบเล่นเปียโนแต่ไม่มีเป็นของตัวเองต้องไปขอเล่นที่ร้านดนตรี ทั้งคู่มาพบกันและได้รู้ถึงพรสวรรค์ทางด้านดนตรีของแต่ละฝ่าย จึงต่างพยายามผลักดันให้อีกฝั่งประสบความสำเร็จในชีวิต

เรื่องนี้เป็นหนังรักแนวอบอุ่นแต่แฝงด้วยดราม่าลึกซึ้ง นักแสดงก็ได้ กล็น แฮนซาร์ด นักร้องนำและมือกีตาร์วงร็อคไอริชชื่อดัง The Frames และ มาร์เกตา เออร์โกลว่า นักดนตรีหญิงชาวเชคชื่อดังรับบทพระ-นางซึ่งทำได้ยอดเยี่ยมจนหลายคนต้องเสียน้ำตา ว่ากันว่าเรื่องนี้มีเค้าโครงมาจากชีวิตของ แฮนซาร์ด เอง นอกจากบทประพันธ์จะลงตัวแล้ว เพลงประกอบภาพยนตร์ “Falling Slowly” ที่ร้องโดยพระเอกและนางเอกของเรื่องยังคว้ารางวัลออสการ์สาขา Best Original Song รวมถึงรางวัลเอ็มไพร์ อวอร์ดกับซาวแทรคยอดเยี่ยมอีกเช่นเดียวกัน

Nana

หนังญี่ปุ่นที่เข้าฉายเมื่อปี 2005 โดยมีเค้าโครงมาจากการ์ตูนญี่ปุ่นชื่อเดียวกันมาก่อนจะทำภาพยนตร์ตัวเรื่องนั้นจะกล่าวถึงความสัมพันธ์ของสองสาวที่มีนามว่า นานะ เหมือนกันแต่นิสัยแตกต่างกันสุดขั้ว ตัวนักแสดงได้ มิกะ นากาชิมะ ศิลปินป็อปร็อคชื่อดังของประเทศมารับบท นานะ โอซากิ นางเอกคนแรกซึ่งในเรื่องเป็นนักดนตรีที่ต้องการทำตามความฝันเป็นศิลปินจึงยอมลงทุนมาจากบ้านนอก และ อาโออิ มิยาซากิ รับบทนานะโคมัทสึ สาวซื่อๆทีมาจากต่างจังหวัดเช่นเดียวกัน

ทั้งคู่ต้องมาพักที่อพาร์ทเมนต์เดียวกันจึงทำให้มิตรภาพระหว่างสองสาวเริ่มต้นขึ้นทั้งที่ไลฟ์สไตล์คนละแบบ เรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงความยากลำบากในการประสบความสำเร็จด้านดนตรีเพราะนานะ โอซากิต้องต่อสู้อย่างหนักเพื่อจะเป็นนักร้องอาชีพและสอดแทรกเรื่องมิตรภาพระหว่างวงดนตรีรวมไปถึงความฝันของแต่ละคน ส่งผลให้โกยรายได้ไป 34.6 ล้านเหรียญและทำภาค 2 ออกมาอย่างต่อเนื่องในปี 2006 ตามกระแสเรียกร้อง

We are your friends (2015)

การเลียนแบบคือการฆ่าตัวตาย “ศิลปินประสบความสำเร็จทุกคน เคยผ่านช่วงที่เขาเลิกชื่นชมคนอื่น เขาจะค้นพบสไตล์ของตัวเอง” Cole ชายหนุ่มที่ฝันอยากเป็นดีเจชื่อดัง เดินทางไปรอบโลก เขาใช้ชีวิตทุกวันอยู่กับการทำเพลง แต่เพลงที่เขาตั้งใจทำขึ้นมากลับคล้ายเพลงดังๆของศิลปินหลายคน Coleไม่สามารถสร้างตัวตนผ่านเพลงได้ เขาพยายามเป็นดีเจหลายๆคนมากเกินไป จนวันนึงเขาได้พบกับJames Reed สุดยอดดีเจชื่อดัง ที่พาให้เขาเริ่มเข้าใจว่าดนตรีคือเสียงในจิตวิญญาณ แทนที่จะใช้เสียงกลองประดิษฐ์ ใช้เสียงจากคีย์บอร์ดแข็งๆ ทำไมเราถึงไม่สร้างมันขึ้นมาเอง ค้นหาเสียงใหม่ เสียงที่เป็นของจริง เงยหัวขึ้นจากคอม แล้วออกไปฟังสิ่งที่โลกจริงๆใบนี้พยายามจะบอก

Begin Again (2013)

ความรักที่ไม่ใช่อกหักดังเป๊าะ ! แต่เป็นความเจ็บปวดลึก ๆ ในหัวใจ Begin Again (2013) หนังรักคนดนตรี ที่ถ้าไปด้วยกันได้ดีก็มีแต่รุ่ง แต่ถ้าไม่รอดก็สุดแสนจะเศร้า เพราะเป็นสิ่งที่รักทั้งคู่ เรื่องราวความล้มเหลวในชีวิตรัก ที่เล่าผ่านตัวละครสองตัวอย่าง สตีฟ โปรดิวเซอร์ที่ชีวิตดูล้มเหลวสุด ๆ ทั้งเลิกกับภรรยา โดนไล่ออกจากบริษัทเพลงที่ตัวเองทำมา เพราะแนวเพลงไม่เหมาะกับการตลาดในยุคนั้น สตีฟตามหานักร้อง นักดนตรีที่ตรงกับแนวเพลงตัวเองอยู่นาน จนมาพบกับเกรต้าที่ถูกแฟนที่คบกันมาเกือบ 5 ปีนอกใจ สตีฟและเกรต้าจึงได้ร่วมทำเพลงที่พวกเขารักขึ้นมาอีกครั้ง โดยการเริ่มทำเดโม่ไปเสนอค่ายเพลง

การอัดเดโม่ในเรื่องนี้ เรียกว่าฉีกกฎการอัดเพลงไปแบบสุด ๆ ไม่ต้องมีสตูดิโอ ไม่ต้องใช้อุปกรณ์เจ๋ง ๆ ทุกสิ่งที่อยู่รอบกาย ก็เป็นเครื่องดนตรีได้ ตอกย้ำความเชื่อที่ศิลปะ ดนตรีไม่มีขีดจำกัด ไม่มีกรอบ หรือถูกผิดได้ดีจริง ๆ ดูเผิน ๆ เหมือนจะเป็นหนังที่พาเศร้า แต่กลับมีกลิ่นความอบอุ่น บรรยากาศ ดนตรี รวมถึงเพลงในเรื่องนี้อย่าง Lost Star ที่พาให้รู้สึกว่าได้รับการเยียวยาทุกครั้งที่ดู

Amadeus

หนังอิงอัตชีวประวัติของ โมสาร์ท นักดนตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบนโลกใบนี้ โดยใช้วิธีเล่าเรื่องผ่าน อันโตนิโอ ซาเลียรี่ (รับบทโดย เมอร์เรย์ อับบราฮัม) ที่ตามประวัติศาสตร์สนิทกับโมสาร์ท (รับบทโดย ทอม ฮัลซ์) แต่ในเรื่องนั้นวางบทซาเลียรี่เป็นตัวร้ายซึ่งอิจฉาพรสวรรค์ที่พระเจ้าประทานมาให้กับเพื่อนของเขา จึงต้องวางแผนขัดขวางไม่ให้โมสาร์ทรุ่งเรืองทางด้านดนตรี ซึ่งใครชอบดนตรีคลาสสิคหรือชื่นชอบโมสาร์ทรับรองว่าเต็มอิ่มไปกับเพลงของโมสาร์ทที่ใส่มาทั้งเรื่องรวมไปถึงประวัตินักดนตรีชื่อก้องโลกรายนี้

แม้ว่ารายได้จะค่อนข้างน้อยแค่ 52 ล้านเหรียญเมื่อเทียบกับการลงทุนด้านฉากหรือเครื่องแต่งกายที่อลังการเพราะเป็นหนังแนวเฉพาะกลุ่ม แต่เรื่องนี้กลับกวาดไปถึง 8 รางวัลออสการ์ทั้งภาพยอดเยี่ยม มิกซ์เสียงยอดเยี่ยม, ดารานำชายยอดเยี่ยม, คอสตูมยอดเยี่ยม และอื่นๆ จึงเป็นการการันตีคุณภาพของหนังเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดีว่าเจ๋งแค่ไหน หนังค่อนข้างเก่าพอสมควรเพราะเข้าฉายเมื่อปี 1984 แต่หากใครจะหามาดูในปัจจุบันยังพอหาได้ ทั้งฉากและดนตรีแสนอลังการสมกับ 8 รางวัลออสการ์จริงๆ

Bohemian Rhapsody

คุณรู้จักวง “Queen” ไหม ? สำหรับเด็กยุค 2000 อย่างผมเองนั้น รู้จักน้อยมากหรือเคยได้ยินผ่านหูมาบ้างแต่ก็น้อย จากมุมมองผมซึ่งทำงานสายดนตรี บอกเลยว่าตัวหนังนั้นเปิดโลกอันน้อยนิดของผมได้มากเลยทีเดียว ตัวหนังเล่าถึงประวัติวงควีน ผ่านนักร้องนำอย่าง “เฟรดดี้ เมอร์คูรี” ตั้งแต่เริ่มต้น แต่ละฉากแต่ละตอน ผมนี่ถึงกับอึ้ง แต่ประทับใจและตราตึงมาก

ด้วยเพลงของวงควีนในแต่ละอัลบั้ม ดนตรีต่างกันราวฟ้ากับเหว บางเพลงเศร้าจนอยากจะหมดลมหายใจตรงนั้น บางเพลงก็ปลุกใจจนอยากจะลากสังขารออกไปสู้กับอะไรบ้างสิ่ง ส่วนตัวผมประทับใจฉากคอนเสิร์ตตอนท้าย ในคอนเสิร์ต Live AID ที่มีความสมจริงอย่างมาก ใครจะรู้ว่าคนที่พวกเราเห็นนั้น เป็น CG เวที ลำโพง เครื่องเสียงทุกอย่างล้วนสมจริง และให้อารมณ์ที่สุดขีด ณ ตรงนั้น จนหนังจบ ผมยังติดอยู่ในภวังค์ของวง “Queen”

The Phantom of the Opera

สุดยอดวรรณกรรมคลาสสิคที่นำมาฉายเป็นภาพยนตร์อยู่บ่อยครั้งรวมไปถึงการนำมาทำเป็นละครเวที เนื้อเรื่องหลักคือการที่เจ้าแพนท่อมหลงรัก คริสทีน นักร้องโอเปร่าสาวและได้สอนเธอร้องเพลงจนคริสตินร้องเพลงเก่ง แต่คริสตินรักกับราอูลเจ้าของโรงละคร แพนท่อมรู้เข้าจึงไม่พอใจและลักพาตัวเธอมาเป็นของตนเอง ปีล่าสุดที่ทำเป็นภาพยนต์คือปี 2004 รับบทโดย เจอร์ราร์ด บัทเลอร์ แสดงเป็นแพนท่อม และ เอมมี่ รอสซัม นักร้องโอเปร่าสาวจากอเมริกาแสดงเป็นคริสตีน

เนื่องจากเรื่องนี้เป็นแบบมิวสิคคัลคือต้องร้องเพลงเรื่อยๆแทบทุกฉากในการแสดงทำให้ผู้รับบทคริสทีนต้องคัดเอานักร้องโอเปร่าระดับแนวหน้ามาเล่น รวมไปถึงการใช้วงออเคสตร้าวงใหญ่มาเล่นเพลงประกอบ เรื่องนี้เข้าชิงรางวัลออสการ์สาขา Best Art Direction และ Best Original Song โดยภาคล่าสุดเมื่อปี 2004 นั้นสามารถโทำรายได้ถึง 154.6 ล้านเหรียญกันเลยทีเดียว

Green Book (2018)

ความนิยมของดนตรีคลาสสิคในช่วง 1930-1960 ดนตรีชนิดนี้มักถูกมองว่าเป็นดนตรีของคนขาว และเป็นความนิยมในหมู่คนมีฐานะในสังคมอเมริกา หนังเรื่องนี้ได้สร้างจากเรื่องจริงของ ดร.ดอน เชอร์ลีย์ นักเปียชื่อดังระดับโลกผิวสี ผู้ที่อยากพิสูจน์ตนเองในการออกแสดงในเขตอเมริกาใต้ ในยุคที่ยังมีการเหยียดสีผิวที่ถูกฝังรากลึก พร้อมกับ บอดี้การ์ดอิตาลีสุดกระด้างจากย่านกุ๊ยของนิวยอร์กอย่าง โทนี่ ลิป วัลเลลองก้า ที่ถูกว่าจ้างให้ติดตามดูแล เดินทางโดยมีหนังสือ Green Book ซึ่งเป็นคู่มือของเหล่าคนดำ

เพื่อใช้ชีวิตในการเข้าพักหรือรับประทานอาหารที่ต่างๆ เพราะในยุคนั้นยังมีการเหยียดสีผิวที่รุ่นแรง หากคุณอยู่ในที่ ที่ไม่ถูกยอมรับในสีผิว คุณอาจถุกทำร้ายด้วยวาจาหรือหนักข้อถึงการต้องเสี่ยงชีวิต หากคุณมองหาหนังที่สร้างแรงบันดาลใจในการพิสูจน์ตัวเอง เชื้อชาติ สีผิว ภาษา มันไม่สารมารถฉุดรั้งไม่ให้คุณก้าวไปสู่ความสำเร็จที่คุณต้องการไป สำหรับใครที่ชอบดนตรีคลาสสิคห้ามพลาดเรื่องนี้เด็ดขาดเลย