The Takeover (2022) เดอะ เทคโอเวอร์ ดูซีรีย์ ปรับโหมดแปลงมาดูหนังดัชต์กันบ้าง เพราะเหตุว่านี่เป็นหนังอาชญากรรมไซเบอร์ที่บางครั้งอาจจะอยู่นอกสายตาผู้ชมด้วย เพราะว่าอีกทั้งดารารวมทั้งโปรดักชั่นต่างไม่ค่อยมีชื่อสักเท่าไหร่ แม้กระนั้นบังเอิญว่า หนังมองออกจะบันเทิงใจรวมทั้งย่อยง่ายพอได้ใน “The Takeover” หนังออริจินัลที่มีชนชาติเนเธอร์แลนด์แบบ 100% หากว่าเค้าเรื่องจะค่อนข้างจะสูตรสำเร็จ แม้กระนั้นเป็นสิ่งที่ซ้ำซากจำเจที่เชิญชวนเพลิดเพลินได้อยู่
ประเภท: แอคชั่น / อาชญากรรม
ผู้กำกับ: แอนมารี แวน เดอ มอนด์
นำแสดงโดย: ฮอลลี่ เมย์ บรู๊ด, เคซา ไวสซ์, ฟรังก์ ลามเมอร์ช
ความยาว: 87 นาที
กำหนดฉายในไทย: 1 พฤศจิกายน 2022 (ที่ Netflix)
ภาพยนตร์หัวข้อนี้เป็นภาพยนตร์แนวขโมยจากเนเธอร์แลนด์ ซึ่งจะพาผู้ชมไปติดตามเรื่องราวของ Mel Bandison(เล่นบทโดย Holly Mae Brood) เด็กหญิงแฮกเกอร์อัจฉริยะ คุณแล้วก็เพื่อนฝูงๆกลุ่มหัวกระทิของคุณชอบร่วมมือกันเพื่อเข้าไปแฮ็กบริษัทของพวกเหล่าคนมั่งมีรวมทั้งนำเงินพวกนั้นไปบริจาค หรือก็คือทำเสมือนตนเองเป็นโรบินฮู้ดในโลกยุคใหม่ จนถึงวันหนึ่งคุณได้ไปแฮ็กบริษัทต่างประเทศที่มีความลับอันดำสนิท
แม้กระนั้นหารู้ไม่ว่าบริษัทนี้ไม่เหมือนกับบริษัททั่วๆไป เพราะว่าจู่ๆคุณก็ถูกกรุ๊ปชายปัญหาตามไล่ล่า เท่านั้นยังไม่เพียงพอคุณถูกประกาศจับพร้อมทั้งมีคลิปวิดีโอที่คุณฆ่าชายคนหนึ่งเผยแพร่ไปทั่ว งานนี้คุณก็เลยจำเป็นต้องทำทุกช่องทางเพื่อเอาชีวิตรอดจากเหตุการณ์ในคราวนี้ไปให้ได้ สุดท้ายแล้วเรื่องราวของคุณจะจบเช่นไร แล้วก็ตามที่เป็นจริงแล้วกลุ่มของผู้คนที่ไล่ล่าคุณเป็นผู้ใดกันแน่ ทุกคนจะต้องไปรับดูด้วยตาตนเอง
หนังแฮกเกอร์สูตรสำเร็จที่พอใช้ได้เพลิดเพลินๆมองได้ทาง Netflix มีพากย์ไทย บทความรีวิวนี้ ถูกเขียนขึ้นมาจากความรู้สึกส่วนตัวของผม ถ้าเกิดบกพร่องอย่างไร หรือเปล่าประทับใจคนใดกันจะต้องขอโทษไว้ในที่นี้ เมื่อก่อนจะมาเริ่มการรีวิวพวกเรามาดูเรื่องย่อกันก่อนดีมากกว่า สำหรับภาพยนตร์หัวข้อนี้นั้นเป็นหนังใหม่ที่พึ่งจะถูกเพิ่มมาใน Netflix ได้ไม่นาน ส่วนตัวไม่รู้จักจะประเด็นนี้มาก่อน แต่ว่ามองเห็นเป็นหนังงที่ไม่ยาวมากมายแล้วก็เป็นแถวขโมยเลยตกลงใจเข้าไปมอง
และก็ความรู้สึกแรกภายหลังมองจบเลยเป็นออกจะผิดหวังหน่อยเดียว เนื่องจากตัวหนังมันปกติมากมายๆแบบราบรวมทั้งจืดจาง ทั้งหมดทุกอย่างเป็นง่ายมากไปหมดและไม่มีการหักมุมหรืออะไรที่ทำให้ผู้ชมเหวอเลย ยื่งทำให้ตัวหนังปราศจากความน่าจำเข้าไปใหญ่ บทเขียนมาแบบเรียบง่ายสุดๆความมีเหตุมีผลไม่ค่อยมีเท่าไร การเดินเรื่องก็ทำเป็นไม่ค่อยดีนัก ในตอนแรกๆเป็นปูนานพอสมควรกว่าทั้งหมดทุกอย่างจะเริ่ม แถมหัวข้อสำคัญๆกว่าจะให้ผู้ชมทราบก็คือผ่านมาเกือบจะครึ่งเรื่องแล้ว
เนื่องจากว่าบทออกจะแบนราบและก็เดินเรื่องช้า ส่วนนี้อาจจะก่อให้คนอีกหลายๆคนตกลงใจปิดหนังไปก่อนจะเริ่มเรื่องเสียอีก ด้วยเหตุว่าไม่มีส่วนไหนที่น่าดึงดูดและก็น่าติดตามเลยแม้แต่น้อย ก็เลยไม่บางทีอาจสามารถดึงผู้ชมเอาไว้ได้ แถมยังมีหลายประเภทที่ไม่มีเหตุผลจนถึงน่ารำคาญ โน่นเป็นเรื่องของผู้แสดงผู้แสดงนำชายที่แทบจะไม่เคยรู้นางเอกเลย
แต่ว่าก็ดันเสนอหน้าเข้ามาช่วยแบบไม่คิดหน้าคิดข้างหลัง ขนาดข่าวสารออกว่านางเอกเป็นคนร้ายผู้แสดงนำชายก็ยังจะเชื่อ เชื่อนี้เป็นเชื่อแบบ 100% เลยคะ ทั้งๆที่ความจริงแม้กระทั่งเชื่อก็น่าจจะมีความข้องใจบ้าง ความเวอร์อีกอันก็คือนางเอกกับดารานำชายเป็นเพียงแค่คนเดินดินแต่ว่าดันหนีพ้นทุกสิ่งได้หมดแบบไม่น่าเชื่อ นอกนั้นยังมีอีกหลายแบบมากมายที่ออกจะเกินจริง
ส่วนต่อมาเป็นด้านการแสดง ส่วนนี้ก็ปกติมากมายๆเหมือนกัน ผู้ที่แสดงเจริญที่สุดในเรื่องก็อาจจะเป็นตัวนางเอกนี่แหละ การแสดงของคุณยังอยู่ในหลักเกณฑ์ที่ดีแล้วก็เพียงพอจะหามหนังไว้ได้ (นิดนึง) ส่วนผู้แสดงผู้อื่นในเรื่องก็แสดงได้ตามมาตรฐานทั่วๆไป ตัวร้ายก็ปราศจากความน่าสยองเลย แถมตอนแพ้ก็แพ้ง่ายดายๆเสมือนคิดจะจบก็จบ จบแบบไม่มีอะไรให้จำอีกต่างหาก ส่วนในที่สุดเป็นด้านงานภาพแล้วก็การโปรดักชั่น
ส่วนนี้ก็ยังกลางด้วยเหมือนกัน งานรูปออกมาได้ปกติตามมาตรฐานของหนัง Netflix เลย มิได้มีอะไรเด่นเป็นพิเศษ งานสร้างและก็การโปรดักชั่นต่างๆก็อยุ่ในมาตรฐานเดียวกัน สรุปโดยรวมเลยเป็น เป็นหนังอีกหนึ่งเรื่องที่ค่อนข้างจะปกติแบบสุดๆไม่ถึงกับบันเทิงใจแถมไม่มีอะไรน่าจำเท่าไร แม้กระนั้นอย่าเชื่อที่ผมรีวิว ทุกคนทดลองไปดูด้วยตาตนเองคงดียิ่งกว่า
The Takeover (2022) The Takeover, watch the series, change the mode to see some Dutch movies because this is a cybercrime movie that can sometimes be outside the audience’s eye as well because both the stars and productions They’re not very famous, but incidentally, the movie looked quite entertaining and easily digestible enough in “The The Takeover”, an original film that is 100% Dutch, though the plot is somewhat formulaic, but is a cliche that is invitingly entertaining.
Genre: Action/Crime
Directed by: Anne-Marie Van de Monde
Starring: Holly May Brude, Kesa Weiss, Frank Lammersch
Length: 87 minutes
Scheduled release in Thailand: 1 November 2022 (at Netflix)
The title movie is a thieves movie from the Netherlands. which takes viewers to follow the story of Mel Bandison (played by Holly Mae Brood), a genius hacker girl. You and your elite friends often work together to hack into the companies of the rich and donate those funds. In other words, act like a Robin Hood in the modern world. Until one day, you hacked a foreign company with a dark secret.
However, he didn’t know that this company was different from other companies. Because suddenly you are chased by a group of troublesome men. As if that weren’t enough, you’ve been arrested and a video clip of you killing a man has been spread around. This work, so you need to do every way to survive the events of this time. How will your story end eventually? And actually, who exactly is the group of people chasing you? Everyone must go and see it with their own eyes.
A Successful Hacker Movie That Can Be Enjoyed Watching on Netflix with Thai Dubbed This review article It was written from my personal feelings. What if there was a defect? Or not impressed with each other must apologize here. Before starting the review, let’s take a look at the synopsis first. As for the movie on this topic, it is a new movie that has just been added to Netflix recently. but saw a movie that was not very long and a line of thieves so decided to look
And the first feeling after looking at it is a bit disappointing. Because the leather is very normal, flat and faded Everything is very simple and there are no twists or anything that drives the audience crazy. Ying makes the movie devoid of any memory. The writing is extremely simple and there is not much rationality. The pacing was not very good. In the beginning, it was a fairly long crab before everything started. In addition, the topic that is more important than letting the audience know is almost half of the story.
Because the script is flat and the pace is slow. This part may cause many people to decide to close the movie before it even starts. Because there is no part that is attractive and attractive at all. So it might not be able to hold the audience. Plus, there are many that are irrational to the point of being annoying. That’s the story of the male lead actor who almost never knows the heroine.
But he offered his face to help without thinking ahead. Even the news that the female protagonist is the male lead villain still believes. I believe this is a 100% belief, despite the fact that even if you believe it, there may be some suspicion. The other thing is that the heroine and the male lead are just walkers, but they escape everything unbelievably. In addition, there are many other designs that are quite exaggerated.
The next part is performance. This part is very normal too. The person who performs the most prosperously in the story may be the protagonist. Your acting is still in a good standard and it’s enough to carry the movie (a bit). The villain is without any horror. Plus, when you lose, you lose as easily as if you thought it would end. It ended with nothing else to remember. The last part is the visual work and the production.
This part is also in the middle. The picture work came out normal according to the standards of Netflix movies, nothing special. Production and production are all in the same standard. In summary, it is It’s another movie that’s quite normal, not really entertaining, plus nothing memorable. However, don’t believe my review. It would be better for everyone to try and see with their own eyes.