The Swordsman (2020) จอมดาบคืนยุทธ จงคืนลูกข้ามา

The Swordsman (2020) จอมดาบคืนยุทธ จงคืนลูกข้ามา ดูหนัง

The Swordsman (2020) จอมดาบคืนยุทธ จงคืนลูกข้ามา ดูหนัง เป็นภาพยนตร์ย้อนยุคโบราณเรื่องเด่นของปี 2020 ซึ่งเป็นปีที่มีหนังย้อนยุคโบราณเข้าฉายน้อยๆเรื่องมาก สำหรับคอซากึกคงนึกถึงน่าดู เอาจริงเอาจัง เรื่อง The Swordsman นี้ก็เป็นโปรเจ็คท์ที่ผลิตไว้เมื่อสักสองสามปีที่ผ่านมานะ แต่ว่าเพิ่งจะนำออกมาฉายปีนี้ ทำให้ผู้ที่เคยติดตามข่าวสารรวมทั้งเผ้าคอยจางฮยอกต่างดีใจมากที่ได้ดูกัน แม้กระนั้นเนื่องมาจากเป็นปีที่ธุรกิจโรงภาพยนต์เป็นขาลง ผลพวงจากการระบาดของวัววิด-19 ทำให้ยอดจำหน่ายตั๋วไม่ค่อยครื้นครึกสักเท่าไหร่ แม้กระนั้นก็ยังดีซึ่งสามารถขายลิขสิทธิ์ไปถึง 55 ประเทศ แล้วก็ได้รับเชื้อเชิญไปฉายในเทศกาลภาพยนตร์ 40th Hawaii International Film Festival ด้วย

ตัวอย่างหนัง

เรื่องย่อ The Swordsman

เรื่องราวของ The Swordsman เริ่มที่ปลายช่วงของพระราชโอรสควังแฮซึ่งถูกเจ้าขุนมูลนายยึดอำนาจ ไล่ออกจากบัลลังก์ ซึ่งอาจจำเป็นต้องเล่ากางคเกรียวกราวน์ให้ฟังกันสักหน่อย เนื่องจากในหนังจะมิได้ย้อนอดีตไว้ให้ บางทีอาจดูแล้วสงสัยที่มาได้ เป็นพระราชโอรสควังแฮเป็นกษัตริย์โชชอนท่านเดียวที่มิได้รับนามเป็นกษัตริย์ (ถ้าหากไม่นับยอนซันกุนที่ถูกถอดพระขั้นวันหลัง เพราะเหตุว่าจิตไม่ปกติและก็ทำตัวไม่เหมาะสม)

ด้วยเหตุว่ารับการตั้งเป็นองค์รัชทายาทอย่างฉับพลันในตอนที่พระพ่อ (พระผู้เป็นเจ้าชอนโจ) หลบภัยการรุกรานของประเทศญี่ปุ่น ถัดมาเมื่อพระราชโอรสควังแฮได้ขึ้นครองราชย์ท่ามกลางการบ้านการเมืองแข่งขันของเจ้าขุนมูลนายสองฝ่าย ข้างเหนือใหญ่ส่งเสริมพระราชโอรสควังแฮ และก็ข้างเหนือเล็กเกื้อหนุนพระน้องชายต่างมารดาเป็นองค์ชายยองชาง ว่าโดยอำนาจแล้วองค์ชายยองชางเกิดจากแม่พระตำแหน่งมเหสี ย่อมเป็นสายตรงกว่าพระราชโอรสควังแฮที่คลอดจากแม่พระขั้นสนม

แม้กระนั้นเหตุว่าพระราชโอรสควังแฮมีสิทธิ์ของการเป็นองค์รัชทายาทที่ตั้งไว้ก่อนหน้า ข้างหลังการครองราชย์ เจ้าขุนมูลนายข้างเหนือใหญ่ก็เลยกำจัดกำจัดปรปักษ์การบ้านการเมืองรวมทั้งประหารประหารองค์ชายยองชางด้วย ทำให้เจ้าขุนมูลนายข้างตะวันตกชุบมือเปิบลุกขึ้นยืนมาเปลี่ยนแปลงยึดอำนาจซะเลย อารมณ์ตาอยู่ที่ฉกปลาไปเมื่อตาอินกับตาที่นาทะเลาะกัน พระราชโอรสควังแฮก็เลยถูกปลด รวมทั้งองค์ชายจากแม่พระสนมอีกองค์หนึ่งถูกชวนขึ้นเถลิงราชย์แทน เป็นพระผู้เป็นเจ้าอินโจ

รีวิวภาพยนตร์ The Swordsman

เอาละ พร้อมมาเข้าประเด็น The Swordsman กันละ ซึ่งเอ่ยถึงตอนที่พระราชโอรสควังแฮ (เล่นบทโดย จางฮยอนซอง) กำลังหนีออกมาจากวังไปกับราชองครักษ์ชายหนุ่ม กยอมซาบก (รับบทบาทโดย อีไม่นฮยอก) ซึ่งเป็นนักกระบี่ฝีมือยอดเยี่ยมรวมทั้งสวามิภักดิ์ยิ่ง แต่ว่าเจ้าขุนมูลนายใหญ่อีม๊กโย (สวมบทโดย ชเวจินโฮ) และก็นายทหารใหญ่ไม่นซึงโฮ (สวมบทโดย จองมานชิก) ไล่ล่าตามมาหมดทางหนี ก็เลยตกลงใจยินยอมให้จับแต่ว่าโดยดี เพื่อไม่ให้ผู้อารักขาจำเป็นต้องเสียเลือดเนื้อไปๆมาๆกกว่านี้หรือถึงแก่เสียชีวิต กยอมซาบกก็เลยได้มีชีวิตรอดหนีไปกับเด็กทารกน้อยอีกคน

เวลาผ่านไปสิบกว่าปี กยอมซาบกซึ่งไปดำเนินชีวิตใหม่เป็นราษฎรคนป่าชื่อว่า แทยุยงล (เล่นบทโดย จางฮยอก) อาศัยอยู่บนเขาห่างไกลความเจริญอย่างสงบเงียบกับบุตรสาวที่เลี้ยงเติบโตขึ้นมาด้วยความรัก ชื่อว่า แทอ๊ก (เล่นบทโดย คิมฮยอนซู) เมื่อดวงตาเขาเริ่มเลือน อันเป็นผลมาจากสะเก็ดกระบี่ที่บาดแก้วตาเมื่อคราวประดาบกับไม่นซึงโฮ หมอนักบวชธุดงค์ชี้แนะให้ไปพบยาดีจากสำนักการค้าขายเจ้าใหญ่ในเมืองซึ่งเป็นของ ฮวาชอน (รับบทบาทโดย อีนาคยอง) ด้วยความรักบิดารวมทั้งต้องการไปเปิดหูเปิดตาในเมืองบ้างตามประสาเด็กผู้หญิงรุ่น แทอ๊กก็เลยเกลี้ยกล่อมจนกระทั่งบิดายอมเข้าเมืองร่วมกัน

แม้กระนั้นเรื่องราวไม่เป็นไปตามหวัง ยาก็มิได้ เพราะว่าจะต้องใช้เงินมากยิ่งกว่าที่คิด กลางทางกลับไปอยู่บ้าน แทยุยงลยังพบว่าแทอ๊กหายตัวไป เนื่องจากคุณถูกหลอกว่าจะหารายได้ก้อนโตได้จากงานนอกเวลาดูแลผู้เจ็บป่วยให้คนมั่งคั่ง กลับเปลี่ยนเป็นแผนของอีม๊กโยที่ลวงเอาคุณไปส่งเป็นขี้ข้าให้จีนแทนบุตรสาวตนเอง ด้วยเหตุว่าในตอนนั้น กรุ๊ปกิจการค้าหวงซึ่งย้ำการค้าขายขี้ข้า นำโดย เรารูไต (เล่นบทโดย โจ ทัสลิม) จากวงศ์สกุลชิงซึ่งเข้ามาอวดอำนาจ กว้านต้อนผู้คนไม่เว้นแม้กระทั้งบุตรหลานเจ้าขุนมูลนาย แสดงแสนยานุภาพของวงศ์สกุลชิงที่กำลังจะออกเดินทางมาแทนที่วงศ์สกุลหมิง ทั้งยังเขาเองยังเป็นนักกระบี่มือดีที่ไม่มีผู้ใดต้องการตอแยด้วย ฉันรูไตมีลูกสมุน (เล่นบทโดย จีซึงฮยอน) เป็นบริวารกร่างๆข้างตัวที่รอเสริมรัศมีความขาดความกรุณาปรานีให้กับนายจ้าง

และก็นี่เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดการปลุกกระบี่ของแทยุยงลให้ตื่นมาแสดงพลังอีกที อยู่ในข่ายเรียกได้เต็มปากว่า ‘ลูกเรา..ใครกันแน่อย่าสัมผัส’ หรือจะเป็นหนัง Taken ฉบับประเทศเกาหลี ก็ว่าได้นะ หากแม้ดวงตาเขาจะเริ่มเลือน แม้กระนั้นประสาทหูยังดีงาม พลานุภาพของกระบี่ก็ยังขลังอยู่ ที่สำคัญสุดเป็นพลังสู้ตายจ้ะ ผู้ชมจะได้มองเห็นฉากบู๊ประดาบแบบหนึ่งต่อหนึ่ง หรืออันเดียวกระหน่ำหลายสิบ และยังรวมไปถึงกระบี่เดียวหาญต่อสู้ปืนยาวนับสิบกระบอกได้อย่างว่องไวปานสายฟ้าแลบ ช่างไม่น่าเชื่อจ้ะแต่ว่าก็เพลิดเพลินดี 555

แต่ถ้าว่า ฉากบู๊งดงามรวมทั้งมันๆกลุ่มนี้บางทีอาจต้องไม่ใจร้อนและควรทำใจเย็นรอนิดนึงนะ เนื่องจากว่าตอนครึ่งค่อนเรื่องของหนังจะปูเรื่องราวมาเรื่อยยาวหน่อย แซมแอคชันห่างๆ ด้านหลังเรื่องถึงจะคุ้มการรอคอย ได้พบแอคชันเต็มสตรีม อีกทั้งตื่นเต้นกับภารกิจช่วยลูก แล้วก็ยังมีเงื่อนเฉลยคำตอบปัญหาเซอร์ไพรส์ที่บางบุคคลบางทีอาจเพียงพอทายใจๆได้ถ้าเกิดจับพิจารณาได้แต่ก่อน ซึ่งบทก็กลมกลืนสมเหตุผลดีกับความเป็นตัวตนของกยอมซาบก ส่วนการออกแบบอาวุธกระบี่ก็มองน่าดึงดูดดีนะ เค้าหน้าแปลกไปกว่าที่เคยได้เห็น ไม่ซ้ำๆซากๆดี

คนใดคิดตามมามองเนื่องจากจางฮยอก ก็ขอบอกว่าไม่ผิดหวังจ้ะ มาดเซอร์ๆหรูๆไม่ค่อยพูดต่อยหนัก เอ๊ย สลัดกระบี่สู้หนักแน่น งดงามสมฝีมือผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ martial arts แล้วก็ที่แถมมาอย่างเซอร์ไพรซ์ก็คือ อีไม่นฮยอก แสดงเจริญมากเกินคาด เป็นงานเดบิวท์ภาพยนตร์ แล้วก็ยังเป็นครั้งแรกที่แสดงหนังแอคชันย้อนยุคด้วย เรียกว่าออกสตาร์ทด้วยงานยาก แต่ว่าก็สอบได้ฉลุยไปเลย ส่วนดาราหนังอินโดนีเซียน โจทัสลิม นี่ก็เป็นผลกำไรผู้ชมอีกด้วยเหมือนกัน ความสามารถระดับอินเตอร์ รวมทั้งหล่อคมคายกลิ่นหยาบคายนิดๆไม่น่าเชื่อว่าดูแล้วก็ยังชวนเชื่อได้ว่าเป็นคนจีน 555

โดยรวม ก็จัดว่าเป็นซากึกบันเทิงที่เสพง่ายดายยิ่งกว่าหนังหรือละครย้อนยุคโบราณทั่วๆไป เนื่องจากตัดทอนส่วนประกอบเรื่องเกมการบ้านการเมืองสลับซับซ้อนหรือฟาดฟันแย่งชิงอำนาจ คงเหลืออยู่ไว้เพียงแค่ความเป็นมาแบบโดยประมาณคลายอารมณ์ให้เพลินกับความเป็นไปของภารกิจสำคัญของจางฮยอกเป็นหลัก แล้วก็สิ่งที่คนเขียนถูกใจมากมายอีกอย่างนอกเหนือจากจางฮยอก ก็เห็นจะเป็นโปสเตอร์นี่แหละ ที่สวยยอดเชิงศิลปทุกวางแบบเลย

The Swordsman (2020) Bring back my son to see the movie. It’s the top vintage movie of 2020, a year with very few vintage movies coming out. For Kosakauk, it must have come to mind. Seriously, The Swordsman is a project that was produced a few years ago. but just released this year It made those who used to follow the news, including Hyuk’s clothes, very happy to see each other. However, due to a year of decline in the cinema business. The aftermath of the COVID-19 outbreak causing ticket sales to be less joyous Even so, it sold rights to 55 countries and was invited to screen at the 40th Hawaii International Film Festival.

Synopsis The Swordsman

The story of The Swordsman begins at the end of the King’s Crown Prince Kwanghae being seized by the feudal dynasty. expelled from the throne which may be necessary to tell a bit because in the movie will not be able to go back to the past Maybe you can look at it and wonder where it came from. His son Gwanghae is the only Jocheon king who is not named King. (If not counting Yeonsangun who was removed from the monkhood later because the mind is not normal and acts inappropriately)

because he was suddenly appointed heir to the throne when his father (God Shonjo) sheltering from the invasion of Japan. Later, when the son of Kwang Hae ascended to the throne amid the political competition of the nobles on both sides The big north promotes the royal son Kwang Hae. and the small northern side supports his half-brother, Prince Yeongchang that by power Prince Yeongchang was born from the Queen Mother It is definitely more direct than the son of Kwanghae who was born from a concubine.

However, due to the fact that Prince Kwang Hae had the right of being the heir to the predetermined crown after the reign The great northern nobles therefore eliminated political opponents and executed Prince Yeongchang as well. Causing the western nobles to raise their hands openly to stand up to change and seize power The mood of the eye is to snatch the fish away when the eyes of In and the eyes of Na have quarreled. Kwang Hae’s son was therefore deposed. Including another prince from the concubine was invited to ascend to the throne instead Lord Injo

The Swordsman review

Alright, let’s move on to The Swordsman, which talks about when Prince Gwanghae (played by Jang Hyun Seong) is escaping from the palace with the young royal guard Gyom Sa Bok (played by Lee Min). Hyuk), who is a skilled swordsman and is extremely loyal. But the warlord Lee Mok Yo (played by Choi Jin Ho) and the military general Min Seung Ho (played by Jung Man Shik) pursued them all the way to escape. So decided to agree to be arrested, but it’s good. so that the bodyguards would not have to waste more blood or die. Gyeom Sa Bok survives and escapes with another baby.

More than ten years have passed. Gyom Sa Bok, who goes to live a new life as a savage villager named Tae Yoon Yong (played by Jang Hyuk), lives peacefully in a remote mountain with his loving daughter named Tae. A (played by Kim Hyun Soo) when his eyes started to blur. As a result of the sword fragment that cut the eyepiece when fighting the sword with Min Seung Ho A pilgrim doctor suggests that he find good medicine from the city’s mercantile sect belonging to Hwacheon (played by Lee Na Kyung) out of fatherly love and wants to open his eyes in the city like a young girl. So Taek persuaded until his father agreed to enter the city together.

But the story did not go as expected, the drug was not available because it would cost more money than expected. On the way back home Tae Yoon also finds that Tae Ok has disappeared. Because you are tricked into earning big money from a part-time job caring for the sick for the wealthy. Instead, it turns out to be Lee Mok Yo’s plan to trick you into sending him as a servant to Jean in place of his daughter. because at that time The Huang Merchant Group, which emphasizes the scum trade, is led by Rao Rutai (played by Joe Taslim) from the Qing clan who comes to show off his power. wincing and herding people, even the descendants of nobles Shows the strength of the Qing family that is about to leave to replace the Ming family. He was also a good swordsman that no one wanted to bother with. I, Rutai, has a pensioner (played by Ji Seung Hyun) as a body-at-heart attendant waiting to add to his employer’s aura of unkindness.

And this was what caused the awakening of Tae Yuon’s sword to show its power again. in the network can be called more than ‘Our child..Who is it? Don’t touch it’ or it will be the Korean version of the movie Taken. You can say that even if his eyes start to fade. but the auditory nerve is still good The power of the sword is still magical. The most important thing is the fighting power. Viewers will be able to see one-on-one sword fighting scenes. Or one thump dozens And also including a single sword that can fight dozens of long guns as swiftly as lightning It’s unbelievable, but it’s fun, haha.

But if the action is beautiful and fun, these groups may not be impatient and should be patient and wait a bit. Because half of the story of the movie will cover the story for a long time. Sam action away Behind the story, it’s worth the wait. Found the full action stream. Also excited about the mission to help children And there is still an answer to answers, a surprise problem that some people may sometimes be enough to guess if it can be considered in the past. which the script harmonizes well with the identity of Gyeom Sabok As for the design of the saber weapon, it looks attractive. He was more strange than he had ever seen. not repetitive The Swordsman

Whoever came up with it because of Jang Hyuk Let me tell you that you won’t be disappointed. Luxurious comers don’t talk about fighting too hard. Salad Krabi. Fight hard. Beautifully crafted by someone who specializes in martial arts, and the extra surprise is that Lee Min Hyuk performed better than expected. It’s a movie debut. The Swordsman And it’s also the first time showing a retro action movie. It’s called starting with a difficult job. But the exam was passed. As for the Indonesian movie star Jo Taslim, this is also a profit for the audience. international level skills Including handsome, sharp, a little vulgar smell. Unbelievable that after looking at it, I still believe that it’s Chinese, haha.

Overall, it is regarded as a sakuek entertainment that is easier to consume than movies or traditional period dramas in general. because it cuts down on elements of complicated political games or struggles for power Remaining only an approximate background, relax the mood to mainly enjoy the progress of Jang Hyuk’s important mission. And what the author likes a lot besides Jang Hyuk I can see that it’s a poster. The most beautiful, artistically beautiful, every design.

• The Swordsman
• The Swordsman จอมดาบคืนยุทธ จงคืนลูกข้ามา
• จอมดาบคืนยุทธ จงคืนลูกข้ามา