The Conjuring The Devil Made Me Do It (2021) คนเรียกผี 3 มัจจุราชบงการ ดูหนัง รอกันมาอย่างนานมากกับภาคต่อของหนังสยองขวัญแฟรนไชส์ The Conjuring นับว่าเป็นจักรวาลที่หลายๆคนต่างพากันนึกถึง สุดท้ายพวกเราก็จะได้ดูกันแล้ว การกลับมาคราวนี้พวงด้วยผู้กำกับคนใหม่ที่เคยชินกันดีอย่าง Michael Chaves ( ที่เคยควบคุมหนัง The Curse of The Weeping Woman คำแช่งมรณะจากหญิงร่ำไห้ ) ซึ่งได้รับไม้ถัดมาจากผู้กำกับเดิม James Wan แล้วก็ถึงแม้ว่าจะเปลี่ยนแปลงผู้กำกับแม้กระนั้นสิ่งที่ยังคงอยู่ซึ่งก็คือความสยองขวัญ รวมทั้งในภาคนี้ได้เคลมไว้ว่า
เริ่มด้วยความปั่นป่วนเมื่อกำเนิดสิ่งแปลกๆสังกัดเด็กผู้ชายตัวน้อย David เมื่อเขากำลังถูกบางสิ่งบางอย่างครอบครองทั้งกายใจ Ed and Lorraine Warren จะต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อช่วยเขาแต่ถ้าว่าทุกอย่างมันไม่เป็นผลจนถึง Arnie ได้เข้ามาแล้วก็กล่าวบางสิ่งก่อนทุกๆสิ่งทุกๆอย่างจะกลับไปปกติ เรื่องร้ายๆดูเหมือนจะล่วงเลยไปด้วยดีแม้กระนั้นสิ่งนั้นกลายเป็นจุดเริ่มของการฆาตกรรมสะเทือนใจที่สร้างความตะลึงงันให้กับประวัติศาสตร์ของอเมริกา
เปิดเรื่องมาอย่างน่าระทึกใจ เป็นความรู้สึกที่แบบรอการกลับมาของหนังแนวนี่เลยภายหลัง 5 ปี กว่าจะมีภาคต่อ จากจิตใจคนเขียนที่เป็นแฟนหนังจักรวาลนี้ แล้วก็เนื่องจากว่าเพียงพอทราบมาโดยประมาณว่าบางครั้งก็อาจจะไม่เหมือนกับรายละเอียดที่เคยมีมาในภาคก่อนๆเป็นสองเท่าความต้องการมองมากมายๆแอบตระหนกตกใจตอนมาดูว่าไม่ถูกเรื่องหรือไม่ด้วย
ด้วยเหตุว่ามีการเปลี่ยนรูปแบบตอนเปิด title ไปบ้าง แบบค่อนจะว้าวพอเหมาะพอควร (แม้กระนั้นก็เอ๊ะ หน่อยเดียวจะคืออะไรต้องการที่จะให้ไปดู) แล้วก็เอาเข้าจริงนะ นึกถึงบรรยากาศการดูหนังแบบงี้มากมาย ซึ่งมันเป็นบรรยากาศที่ สามารถบอกได้เลยจากนักประพันธ์ที่ถูกใจดูหนังสยองขวัญว่า หาแนวอย่างงี้ยากหากไม่ใช่จักรวาล Conjuring
รวมทั้งสำหรับภาค The Devil Made Me Do It พญายมสั่งการ นี้ ถ้าเกิดแปลกันตามจริงมีความหมายว่า เรื่องราวความสยองขวัญทั้งผองที่เกิดขึ้นอยู่กับคดีนี้มีบุคคลที่อยู่เบื้องหน้าเบื้องหลัง และก็เหตุเพราะเป็นโครงเรื่องจากความจริง ตัวหนังเลยได้เสนอคดีสะเทือนใจทีแรกของหน้าประวัติศาสตร์อเมริกาที่คนก่อเหตุลงรังควานผู้ครอบครองอพาร์ตเมนต์จนกระทั่งแก่บาป รวมทั้งอ้างถึงว่านั้นเป็นสิ่งที่ตนมิได้ทำแม้กระนั้น ” ภูติผีต่างหากที่บังคับเขา ” หลังจากนั้น เมื่อ Ed and Lorraine Warren ได้เจอกับเรื่องราวนี้
ทำให้พวกเขาทั้งคู่จำเป็นต้องสืบเสาะหาความเป็นจริง ว่าอะไรกันแน่ที่ทำให้พวกเขาไม่สามารถที่จะปราบซาตานตนนี้ลงได้ จากพิธีการไล่ผีก่อนหน้า จวบจนกระทั่งตัวหนังจะเพิ่มตัวแปรที่สำคัญและไม่มีในภาคไหนมาก่อน เป็นผู้เล่นศาสตร์มืดนั่นเอง รวมทั้งนี่เปลี่ยนเป็นจุดเริ่ม ที่พวกเขาจำเป็นต้องฝ่าฟันขวากหนาม รวมทั้งเอาชีวิตรอดจากบุคคลลึกลับที่ทำภาระกับภูติผีปีศาจให้ได้
เกริ่นก่อนว่า The Devil Made Me Do It ก่อนจะปล่อยเนื้อปล่อยตัวอย่างหนังได้ถูกเดาไว้ว่าบางครั้งก็อาจจะเกิดเรื่องราวของคนเราสุนัขป่า ซึ่งนักประพันธ์ก็ไม่คาดคิดว่าจะได้เจอตัวแปรอันอื่นเว้นเสียแต่ภูติผีปีศาจ แปลงเป็นว่าภาคนี้กลับเล่าที่ต่างจากภาคก่อนๆอยู่ไม่น้อย ทั้งในภาคนี้ยังมีการใช้ CG ค่อนข้างจะมากยิ่งกว่าภาคก่อนๆเยอะแยะเลย โดยการที่พวกเราคาดคะเนว่าบางทีอาจเป็นมนุษย์สุนัขป่ามีต้นเหตุมาจาก ภาพเบื้องหน้าเบื้องหลังที่ถูกปลดปล่อยออกมาอย่างรอยเล็บข่วนลากยาว แต่ว่าข้างหลังรับดูก็ยังไม่แน่ใจว่าภูติผีปีศาจที่ถูกเชิญมาจะใช่ มนุษย์สุนัขป่าใช่หรือไม่
แอบขนลุกนะเอาจริงเอาจังๆสำหรับคนเขียนแล้วเนื่องจากว่าว่าเป็นภาพยนตร์ที่ถูกผลิตแล้วก็ดัดแปลงแก้ไขมาจากความจริงของคดีหนึ่งที่Ed and Lorraine Warrenได้เข้าไปมีส่วนร่วมและก็บันทึกการไล่ผี รวมทั้งตัวของภาพยนตร์ก็แต่งเรื่องราวได้น่าระทึกใจมากมาย กล่าวได้ว่าพาเอาผู้ชมลุ้น หยุด นิ่ง สะดุ้ง ตื่นเต้น แบบสลับวนๆกันไป ไม่เบื่อเลยสักหน่อย รายละเอียดในรูปภาพยนตร์จะมีข้อคิดเตือนใจแทรกสอดไว้บ้างบางส่วน กับการที่พวกเราจะต้องมีความองอาจ (ซึ่งเรื่องของความกล้าหาญนั้น จักรวาลก็ได้แทรกแง่คิดนี้ไปตั้งแต่ ภาคแรกๆแล้วด้วย)
ซึ่งหนังจะให้ความรู้ความเข้าใจสึกว่า นักแสดงก็ดำรงชีวิตทุกวันไปธรรมดา กลับมีบางสิ่งบางอย่างที่จะเข้ามาแทรกความธรรมดานี้อยู่บ่อย นอกเหนือจากนี้ยังมีเรื่องมีราวของกระบวนตามกฎหมายที่เกี่ยวเนื่องกับภูติผี (อันนี้ก็พึ่งทราบดีว่าสามารถนำเรื่องภูตผีปีศาจขึ้นแถลงกับชั้นศาลได้ แม้กระนั้นเป็นบางประเทศแค่นั้น) แล้วก็หากว่าคุณจะรู้สึกว่าเรื่องราวคงเป็นการปราบไล่ผีแบบ Basic จะกล่าวว่าอย่างที่บางครั้งก็อาจจะรู้อยู่แล้วทีนี้คือ ภาคนี้ของ Conjuring มันแตกต่างกันอย่างแจ่มแจ้ง แต่ว่ากลิ่นของจักรวาลยังคงอยู่ แถมยังลุ้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ