Luckiest Girl Alive (2022) ให้ตายสิ… ใครๆ ก็อิจฉา ดูหนัง ชีวิตอันสมบูรณ์แบบในนิวยอร์กของนักเขียนสาวเริ่มสั่นคลอน เมื่อสารคดีอาชญากรรมจากเรื่องจริงบีบให้เธอต้องเผชิญหน้ากับอดีตและความทรงจำอันเลวร้ายสมัยช่วงมัธยมปลาย เล่าเรื่องราวชีวิตของนักเขียนที่ชีวิตตสุดแสนจะสมบูรณ์แบบ เป็นคนที่ประสบความสำเร็จทางการงาน ร่ำรวย มีชื่อเสียงและมีหน้ามีตาและเป็นคนสำคัญ ซึ่งกำลังจะแต่งงานในอีก 1 อาทิตย์กับสามีนักธุรกิจที่สุดแสนจะสมบูรณ์แบบและเป็นคนสำคัญของประเทศเช่นกันเธอมีชีวิตที่ทุกคนอิจฉา แต่เธอกลับมีความลับบางอย่างซ่อนอยู่
เป็นหนัง 2 ชั่วโมงที่ดำเนินเนื้อเรื่องเรื่อยๆ เล่าเรื่องแบบเรียบๆ และมีโทนมู้ดของเรื่องที่ค่อนข้างเนิบๆเครียดๆ รู้สึกได้ถึงชีวิตที่วุ่นวายกับคู่สามีภรรยาที่สุดแสนจะเรียลรวมถึงการโกหกและการใส่หน้ากากเพื่อเข้าหาสังคมอย่างแท้จริง หนังเสียดสีและเล่าเรื่องตลกร้ายหลายๆอย่างเกี่ยวกับชีวิตคู่และชีวิตจริงของคนในสังคมสมัยนั้น ทั้งความเหลื่อมล้ำทางฐานะและชนชั้น ความไม่เท่าเทียมกัน การแข่งขันกัน ความอยากได้อยากมี ความที่คนรวยรวยมากขึ้น คนจนจนมากกว่าเดิม ส่วนคนที่มีไม่ถึง หรืออยู่ในระดับชั้นกลางๆ ก็จะมองหาหนทางเพื่อไต่ระดับขึ้นไป และคิดอยู่ตลอดว่าจะทำยังไงถึงจะมีแบบนั้นได้บ้าง
ถึงแม้ว่าเราจะติดภาพของเธอ “มิลา คูนิส” เป็นนักแสดงหนังคอมเมดี้เป็นหลักอยู่บ่อย ๆ แต่ก็อย่าลืมว่าเธอเป็นอีกหนึ่งดาราเจ้าบทบาทที่สามารถเล่นหนังดราม่าได้ดีเช่นเดียวกัน ถึงมันจะไม่ปังเท่ากับการเล่นหนังตลก แต่การมาจับงานดราม่าใน “Luckiest Girl Alive ให้ตายสิ…ใคร ๆ ก็อิจฉา” ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งชิ้นงานที่น่าสนใจและความเร้นลับของหนังที่อยากจะค้นหาอยู่ไม่น้อย
Luckiest Girl Alive เป็นเรื่องราวของ อานี่ ฟาเนลลี สาวนิวยอร์กปากจัดที่ชีวิตดูเหมือนจะมีครบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่การงานในนิตยสารสุดเลิศที่ใคร ๆ ก็อยากทำ เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายสุดปัง และงานแต่งงานในฝันที่แนนทักเก็ตที่ใกล้จะมาถึง แต่เมื่อผู้กำกับสารคดีอาชญากรรมเชิญเธอมาเล่าประสบการณ์จากเหตุการณ์สะเทือนขวัญ ซึ่งเกิดขึ้นตอนที่เธอยังเป็นวัยรุ่นที่โรงเรียนเบรนท์ลีย์ชื่อดัง อานี่จำต้องเผชิญกับความจริงอันเลวร้ายที่อาจทำลายชีวิตสวยหรูที่เธอบรรจงสร้างขึ้นมา
เรื่องนี้ดัดแปลงมาจากนิยายขายดีติดชาร์ตของ เจสสิก้า โนลล์ ที่ขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในวรรณกรรมยอดเยี่ยมและยอดนิยม เมื่อปี 2015 เลยทีเดียว หนังได้ผู้กำกับทีวีซีรีส์คนดัง “ไมค์ บาร์เกอร์” ที่เคยผ่านงานเด็ด ๆ อย่าง “The Handmaid’s Tale” และ “Fargo” และเขาก็สามารถหยิบเอาโทนและบรรยากาศจากผลงานดีเด่นของเขามาใส่เอาไว้ในหนังเรื่องนี้ และถือว่าค่อนข้างเวิร์กดีอยู่
ความท้าทายของ Luckiest Girl Alive น่าจะเป็นวิธีการเล่าเรื่องของหนัง เพราะฉากหลังของหนังได้เกี่ยวกับปัญหาสังคมที่ยังเรื้อรังอยู่ ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน โครงเรื่องแนวนี้ค่อนข้างมีอยู่เกลื่อนในหนังอเมริกันยุคนี้ แต่จะทำให้ยังไงให้เรื่องนี้แตกต่างและดึดดูดความสนใจ แต่การที่หนังเรื่องนี้เลือกที่จะเล่าตัดสลับไปมา ระหว่างปัจจุบันกับอดีต ที่ต้องยอมรับว่ามีทั้งเวิร์กบ้างและยังไม่เวิร์กบ้าง แต่ก็ต้องถือว่าเคารพต้นฉบับเป็นอย่างมาก เพราะเราได้ผู้ประพันธ์มาเขียนบทหนังให้ด้วยนั่นเอง
แม้ว่าจะทราบดีว่าภาพแฟลชตัดไปมาเป็นการสะท้อนถึงสภาพจิตใจและอารมณ์ของตัวละครที่ยังพยายามฝังเรื่องอดีตเอาไว้ให้ลึกที่สุดในบึ้งก้นแห่งจิตใจ แต่จะฝังสักเท่าไหร่ก็ยังไม่ลึกพอที่จะกลบอดีตอันชวนหลอกหลอนที่จะกลบให้มิด แต่กระนั้นการเล่าเรื่องเช่นนี้ก็ถือว่าเป็นลูกเล่นอย่างมีชั้นเชิงในระดับที่พอใจ ถึงมันจะสลับตัดไปมา แต่ก็ไม่ได้ขัดอารมณ์ของหนังสักเท่าไหร่
การร้อยเรียงเรื่องราวของหนังยังค่อย ๆ ไต่ระดับอารมณ์ของผู้ชมขึ้นไปที่ละเรื่อย ๆ คอยพาผู้ชมเก็บรายละเอียดยิบย่อยรายทางของประเด็นต่าง ๆ อย่างไม่รีบร้อน จังหวะของหนังถือว่าถูไถสนุกพอใช้ได้ ก่อนจะม้วนเป็นเกลียวคลื่นซัดถาโถมใส่ทีละลูก ๆ อย่างสาแก่ใจ ถึงหนังจะมีกลิ่นความเป็นเฟมินิสต์คละคลุ้งอยู่ แต่ก็ถือว่าเป็นกลิ่นที่ดี และช่วยขับเคลื่อนหนังไปในทิศทางที่หนักแน่นยิ่งขึ้น
การแสดงของ มิลา คูนิส ถือว่าเป็นแม่เหล็กและแม่แรงหลักที่ช่วยพยุงหนังทั้งเรื่องนี้เอาไว้ได้ดี ถึงแอคติ้งของเธอจะไม่ได้สร้างความหวือหวาแตกต่างอะไรจากผลงานก่อ ๆ ของเธอสักเท่าไหร่ แต่การแสดงน้อยแต่มากของเธอ กับเสน่ห์ทางการแสดงของมิลา ก็ถือว่าเป็นส่วนที่ช่วยเติมเต็มหนังเรื่องนี้ได้อย่างน่าพอใจ และเธอก็เป็นอีกคนที่เล่นหนังดราม่าได้ดีพอ ๆ กับการแสดงบทแนวคอมเมดี้
Luckiest Girl Alive น่าจะเป็นทั้งวรรณกรรมและหนังที่สะท้อนถึงปัญหาสังคมอันหนักหน่วง เรียบเรียงปมแสนสาหัสออกมาในท่วงทำนองที่ไม่ได้บีบเค้นและผลักแรงกดดันเป็นภาระให้กับคนดูแทน ปล่อยให้ซึมซับความต่ำทรามที่เป็นบ่อกำเนิดบาดแผลที่ชอกช้ำมากยิ่งขึ้น ๆ เรื่อยและกลายเป็นแผลเป็นรอยที่ชัดเจนที่สุดในชีวิตของตัวละครนั้น ๆ
โดยภาพรวมแล้วนั้น Luckiest Girl Alive ถือว่าเป็นหนังดราม่าที่แบกรับเอาไว้ด้วยประเด็นที่ค่อนข้างหนัก ทั้งประเด็น Me Too, การครอบครองอาวุธปืน หรือ ความรุนแรงในสถานศึกษา แต่หนังถ่ายทอดเรื่องราวออกมาในมุมที่ค่อยเป็นค่อยไป ค่อย ๆ แง้มปมทีละน้อยออกมาเป็นจังหวะที่ค่อย ๆ เข้มข้นยิ่งขึ้น ไล่ลำดับความหม่นของหนังขึ้นได้ตามลำดับ แม้ว่าจะเป็นจุดที่แสนสาหัสที่สุดของเรื่อง แต่ค่อนข้างทรงพลัง
จังหวะของหนังอาจจะเรื่อย ๆ ช้า ๆ แต่ข้อความในสารที่ทรงพลังในหนังเรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ช่วยยกระดับความสมบูรณ์ของหนังได้ดี เนื้อหาของหนังเต็มไปด้วยน้ำหนักที่หนักอึ้ง แต่สามารถถ่ายทอดออกมาในลักพษณะแบ่งเบาน้ำหนักนั้นออกไป ให้คนดูไม่ได้รู้สึกหนักหน่วงเกินไป นี่คือหนังดราม่าที่แสนสาหัส แต่ได้การแสดงและการเล่าเรื่องที่ค่อนข้างจับใจ คนดูจะซึบซัมบาดแผลเล่านั้นได้อย่างเข้าถึง.
Luckiest Girl Alive (2022) Damn it… Everybody’s Jealous Watch Movie The young writer’s perfect life in New York begins to shake. When a true crime documentary forces her to confront her past and bad memories of high school. It tells the story of a writer whose life is so perfect. A person who is successful in business, wealthy, famous, and has a face and an important person. She is getting married in a week to her husband, a perfect businessman and an important man of the country. She has a life that everyone is envious of. But she has some secrets hidden.
It’s a 2-hour movie that goes on and on. tell a simple story and has a moody tone of the story that is quite tense Feel the hectic life of a very real couple, including the lies and masks to truly socialize. A satirical film and tells a series of bad jokes about the married life and the real life of people in society at that time. both the inequality of status and class inequality competition desire to have the richer the richer poor people more than before As for those who have not reached or in the middle class will look for a way to climb up And I’m always thinking about how to get something like that
Although we often portray her as Mila Kunis as a comedy actress, let’s not forget that she is another star who can play well in drama movies as well. Even if it’s not as good as playing a comedy movie. But coming to grips with the drama in “Luckiest Girl Alive …everybody’s Jealous” is one of the most interesting and mysterious pieces of the movie that I want to find out.
Luckiest Girl Alive tells the story of Ani Fanelli, a stubborn New Yorker whose life seems to have it all. Whether it’s a job in a great magazine that everyone wants to do. and the upcoming Nantucket dream wedding But when the director of a crime documentary invites her to share her experience of a shocking event, This happened when she was a teenager at the famous Brentley School. Ani must face harsh realities that could destroy the glorious life she had created.
This is an adaptation of Jessica Knoll’s chart-topping novel, which became one of the best and most popular novels of 2015. Barker, who has worked with hits such as “The Handmaid’s Tale” and “Fargo,” and was able to bring the tone and atmosphere of his outstanding work into the film. and is considered to be working quite well.
Luckiest Girl Alive’s challenge is probably the way the movie is told. Because the backdrop of the movie is about chronic social problems. from past to present This kind of plot is quite common in American movies these days. But how do you make this story different and interesting? But the movie chooses to cut back and forth. between present and past To admit that there are some work and some not work. But it must be considered very respectful of the original. Because we have the author to write the script for the movie as well.
Although it is well known that the flash cuts are a reflection of the mental and emotional state of the characters who are still trying to bury the past in the deepest depths of their minds. But no matter how much you bury, it’s not deep enough to cover up the haunting past. But still, this kind of narrative is a gimmick with a satisfying level of tactics. even if it will switch back and forth But it doesn’t interfere with the mood of the movie much.
The storyline of the film also gradually climbed the audience’s emotional level, keeping the audience in a hurry to capture the details of the various issues. The rhythm of the movie is considered fun to plow. before rolling into a ripple, smashing each child one by one reluctantly, even though the film had a feminist smell. But it is a good smell. and help drive the movie in a stronger direction
Mila Kunis’ acting is the magnet and main force that keeps the whole movie going. Even though her acting doesn’t create any noticeable difference from her previous works. But her little acting with the charm of Mila’s acting It is considered to be the part that complements this movie satisfactorily. And she’s another person who plays dramas as well as comedies.
Luckiest Girl Alive is probably both a literary and a film that reflects serious social issues. Instead, it composes the terrible knots in an unstressed melody and puts the pressure on the audience instead. Let it absorb the degradation that is the source of more and more traumatic wounds and become the most obvious scars in a character’s life.
Overall, Luckiest Girl Alive is a drama film that bears heavy issues such as Me Too, gun possession, or school violence. But the film conveys the story in a gradual angle, gradually opening the knot gradually into a rhythm that gradually becomes more intense. Chase the order of the dullness of the movie up in order. Although it is the most serious point of the story. but quite powerful
The tempo of the film may be slow, but the message in the film’s powerful message is what enhances the integrity of the film. The content of the movie is full of heavy weight. but can be conveyed in the nature of lightening the weight away so that the audience doesn’t feel too heavy This is a serious drama movie. But the acting and storytelling is quite captivating. The audience will be able to absorb those wounds with good access.