Hunt (2022) ล่าคน ปลอมคน ดูหนัง ภาพยนตร์ Hunt ล่าคนปลอมคน : สายลับสุดเดือดในยุคที่คาบสมุทรเกาหลียังร้อยระอุ สถานการณ์พลิกผันได้ทุกนาที กับสุดยอดผลงานการแสดง และ กำกับจาก “อีจองแจ” Lee Jung-jae ที่โด่งดังทะลุฟ้าจาก ซีรีส์ชื่อดัง Squid Game นับได้ว่าเป็นภาพยนตร์ที่น่าจับตามอง ในแง่ของความเป็นภาพยนตร์แอ็กชั่นเกาหลี ที่มีจุดขาย มีเสน่ห์ในความเป็นสายลับ ในยุค 1980s ที่ความเดือดดาลร้อนระอุในแง่การเมืองคาบสมุทรเกาหลียังคุกรุ่นอยู่
ภาพยนตร์เรื่อง : Hunt (2022) ล่าคน ปลอมคน
ประเภท: แอคชั่น
ผู้กำกับ: อีจองแจ
นำแสดงโดย: อีจองแจ, จองอูซอง, จอนฮเยจิน, ฮอซองแท
ความยาว: 125 นาที
กำหนดฉายในไทย: 1 กันยายน 2022 (ในโรงภาพยนตร์)
หลังจากที่ผู้นำระดับสูงของเกาหลีเหนือขอลี้ภัย หัวหน้าฝ่ายกิจการต่างประเทศของหน่วยสืบราชการลับเกาหลีใต้ พัค พยองโฮ (อีจองแจ) และ ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการภายในประเทศ คิมจองโด (จองอูซอง) ถูกมอบหมายให้ล่าตัวสายลับเกาหลีเหนือที่ได้ฉายาว่า ดงลิม ซึ่งแฝงตัวลึกอยู่ในองค์กร เมื่อสายลับเริ่มปล่อยข้อมูลลับสุดยอดที่อาจทำให้ทั้งประเทศสั่นคลอน สองบิ๊กแห่งองค์กรถูกบีบให้ต้องมาสืบสวนกันเอง ซึ่งถ้าหาตัวการไม่ได้พวกเขาเองอาจต้องกลายเป็นแพะรับบาปในแผนการร้ายที่เดิมพันด้วยความเป็นความตายของประธานาธิบดีเกาหลีใต้
หนังเล่าย้อนกลับไปยังเรื่องราวสุดเข้มข้นในอดีต โดนมีฉากหลังเป็นสังคมเกาหลีในยุค 80 ที่เผด็จการกำลังเรืองอำนาจ เมื่อหัวหน้าหน่วยสืบราชการลับระหว่างประเทศอย่าง “พัคพยองโฮ” (รับบทโดย อีจองแจ) ผู้ที่ได้รับการยอมรับทั้งในเรื่องฝีมือและความน่าเชื่อถือ ต้องมาปฏิบัติภารกิจลับประชันไหวพริบร่วมกับ “คิมจองโด” (รับบทโดย จองอูซอง) หัวหน้าหน่วยข่าวกรองแห่งชาติ ซึ่งทั้งสองต่างเคลือบแคลงสงสัยในหลักการของอีกฝ่าย
จนกระทั่งทั้งคู่ต้องถูกส่งตัวไปสืบราชการลับ หลังจากมีรายงานว่า “ดงลิม” สายลับเกาหลีเหนือได้แฝงตัวเข้าทำงานในองค์กรของรัฐบาล เพื่อจ้องจะบ่อนทำลายเกาหลีใต้ แต่ระหว่างที่กำลังสืบหาตัวสายลับ ทั้งพัคพยองโฮ และคิมจองโด กลับต้องมาสืบสวนอีกฝ่ายกันเอง เนื่องจากเกิดเหตุการณ์บุคคลสำคัญถูกลอบสังหาร นำไปสู่การเชือดเฉือนไหวพริบเพื่อค้นหาความจริง โดยมีประชาชนและความมั่นคงของประเทศเป็นเดิมพัน
ถึงคิวของอีกหนึ่งหนังที่ไปเฉิดฉายได้รับเสียงปรบมือกึกก้องจากเทศกาลหนังเมืองคานส์ปีล่าสุดมาแล้ว กับผลงานเดบิวต์ในฐานะผู้กำกับเรื่องแรกของนักแสดงหนุ่มเกาหลีที่กำลังมาแรงสุด ๆ ในเวทีสากล อย่าง “อีจองแจ” และนี่คือผลงานที่เขาภาคภูมิใจนำเสนอ “Hunt ล่าคนปลอมคน” ดีเดือดด้วยแอคชั่นระดับสมคำร่ำลือ ที่กลั่นกรองออกมาจากประสบการณ์คนเบื้องหน้าวงการหนังโดยแท้ เล่นใส่เกียร์กระแทกใจคนดูแบบไม่มียั้งตลอด 2 ชั่วโมงเต็ม
Hunt ล่าคนปลอมคน เป็นเรื่องราวของ พัคพยองโฮ กับ คิมจองโด ต่างปฏิบัติหน้าที่เป็นเจ้าหน้ที่ประจำหน่วยรักษาความมั่นคงแห่งชาติ การทำงานในหน้าที่ของเขาค่อนข้างมั่นคงและได้รับการยอมรับจากหลายฝ่าย แต่ปรากฏว่าสถานการณ์พลิกผัน เมื่อมีสายลับเกาหลีเหนือแอบแฝงด้วยเข้ามาที่ฝั่งเกาหลีใต้ ทำให้พวกเขาต้องเปิดฉายห้ำหั่นและสืบค้นหาความจริงที่แอบซ่อนอยู่ว่ามันคืออะไรกันแน่?
ก็คือไม่เกินจริงที่อยากจะลุกขึ้นปรบมือให้กับฝีมือและลีลาการทำหนังของ อีจองแจ เรื่องได้ว่าเพียงแค่ทำออกมาเรื่องแรก เขาก็สร้างมาตรฐานให้กับตัวเองค่อนข้างสูงพอประมาณ จากเนื้องานที่ออกมานั้นสัมผัสได้ชัด ๆ เลยว่าเขาเก็บเกี่ยวและดึงเอาประสบการณ์ที่เขาวงการมาเกือบ 30 ปีกับหนังกว่า 30 เรื่องมาใช้ประกอบร่างในหนังเรื่องนี้ด้วยความละเมียดและตั้งใจอย่างแน่วแน่ เพราะเขาดึงเอาจุดที่ผู้ชมอยากดู ใส่อารมณ์ความรู้สึกที่คนดูจะต้องเกาะจอแบบลุกไปไหนไม่ได้ ใช่แล้ว กลยุทธ์เหล่านี้มันถูกใส่เอาไว้ในเรื่องนี้แทบทั้งหมด
นับว่า อีจองแจ สอบผ่านในฐานะคนทำหนังจากผลงานเรื่องแรกอยู่ แม้ว่าถ้ามองโดยภาพรวม ๆ แล้วนั้น Hunt ล่าคนปลอมคน อาจจะยังไม่ใช่หนังแอคชั่นที่สมบูรณ์แบบที่สุด แต่อย่างน้อย ๆ ก็ตอบโจทย์และเข้าถึงอารมณ์คนดูได้ดีอย่างเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน เขายังรับหน้าที่ร่วมเขียนบทหนังเรื่องนี้เองด้วย เรียกได้ว่าทำเกือบจะทุกบทบาทในหนังเรื่องนี้เลย เราจึงได้เห็นผลงานแห่งความทุ่มเทของเขา ผ่านการดีไซน์ฉากเด็ด ๆ บทวลีคม ๆ และไฮไลต์ที่บอกได้เลยว่า เดือดตั้งแต่นาทีแรกของหนัง
แต่กระนั้นก็มีสิ่งที่ยังรู้สึกไม่ค่อยประทับใจเท่านั้นกับ Hunt ล่าคนปลอมคน อยู่เช่นเดียวกัน องค์ประกอบของบทหนังที่ค่อนข้างรายละเอียดยิบย่อยมาก ตัวละครก็เยอะมาก จังหวะการเล่าเรื่องอาจจะช่วยบิวต์อารมณ์ผู้ชมได้ตลอดเวลา แต่หนังให้อารมณ์เหมือนกราฟขึ้น ๆ ลง ๆ อยู่บ่อยครั้ง แม้ว่าสถานการณ์ต่าง ๆ ในหนังจะเดือดไม่แผ่วเลยก็ตาม แต่รู้สึกว่าทิศทางของเรื่องและการเล่าเรื่องยังไปควบคู่กันไม่ได้ราบรื่นเท่าที่ควรนัก แต่ก็ไม่ถึงกับเป็นจุดที่ด้อยของหนังแต่อย่างใด
อีกสิ่งที่แอบขัดใจเล็กน้อยก็มีงานตัดต่อหนังของ Hunt ล่าคนปลอมคน ที่อีกนิดเดียวก็จะทำให้คนดูสะอิดสะเอียนเวียนหัวได้แล้ว มุมกล้องไม่ได้แย่ เพียงแต่จังหวะการตัดต่อแบบฉึบฉับไปมา เหมือนยัดฟุตเทจใส่เข้ามาเยอะ ๆ แบบที่บางซีนก็ไม่จำเป็นต้องตัดฉับเข้ามาก็ได้ นั่นจึงเป็นจุดที่ทำให้เกิดความรู้สึกต่อตัวหนังเรื่องนี้ว่าไม่ค่อยกระชับสักเท่าไหร่ ถ้าหากว่าขัดเกลาจังหวะการเล่าและงานตัดต่อในเข้าที่เข้าทางได้มากกว่านี้ ตัดออกไปสักประมาณ 10 นาที น่าจะเข้าใกล้ความยอดเยี่ยมยิ่งกว่านี้
ทางด้านการแสดงแทบจะไม่ต้องพูดอะไรมาก แค่มี อีจองแจ กับเพื่อนซี้ “จองอูซอง” โคจรมามาปะฉะดะกันบนจอหนังเรื่องเดียวกันแล้ว จะต้องให้บรรยายอะไรอีก เพราะพวกเขาต่างเป็นพระเอกเกาหลียอดฝีมือรุ่นคราวเดียวกัน ที่แตกละคนต่างก็งัดอินเนอร์และฝีมือความเก๋าในวงการออกมาพ่นไฟใส่กันแบบไม่มีใครยอมใคร นักแสดงสมทบคนอื่น ๆ ทั้ง “จอนฮเยจิน” หรือ “ฮอซองแท” ก็ถือว่าเล่นได้ดีตามฝีมือของพวกเขา แม้ว่าจะแอบเสียหายสักหน่อยที่บทของพวกเขานั้นใช้งานได้ไม่ค่อยคุ้มกับศักยภาพนัก
แต่กลายเป็น “โกยุนจอง” ดาราสาวที่กำลังมาแรงที่สุดในช่วงนี้ เป็นคนที่ทำให้ตัวละครที่ได้รับบทบาทนั้นเกิดมิติขึ้นมาในหนังได้อย่างโดดเด่นมาก ฝีมือการแสดงของเธอผู้ที่เพิ่งจะเดบิวต์เข้าวงการมาได้แค่เพียง 2-3 ปี และเรื่องนี้ก็เป็นผลงานหนังเรื่องแรกของเธอด้วย แต่งัดพลังและอินเนอร์ใส่เต็ม เป็นคาแรกเตอร์น่าค้นหาและลึกลับในเวลาเดียวกัน (เผื่อถ้าใครไม่รู้จักน้องคนนี้ เธอคือ นักซู ในซีรีส์ Alchemy of Souls ที่เพิ่งจบไปนั่นเอง)
แน่นอนว่า Hunt ล่าคนปลอมคน เป็นหนังที่ทรงอิทธิพลไม่น้อย เพราะว่าใคร ๆ ก็อยากมาร่วมแจม การดูหนังเรื่องนี้จึงกลายเป็นความบันเทิงอีกแบบหนึ่ง เพราะเราจะได้เห็นทัพนักแสดงตัวเป้ง ๆ ของเกาหลี โผล่มาขอมีซีนอยู่หลายคนทีเดียว มีทั้งน่าจดใจบ้างและใส่เข้ามาทำไมบ้าง ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งสีสันที่ได้เห็นคนวงการบันเทิงเกาหลี พร้อมใจกันอยากจะมาเล่นหนังให้กับเพื่อนในวงการอย่าง อีจองแจ ผู้นี้
เอาเป็นว่าโดยภาพรวมแล้วนั้น Hunt ล่าคนปลอมคน ถือว่าเป็นหนังแอคชั่นเชือดเฉือนที่ค่อนข้างสร้างความเอ็นจอยให้กับผู้ชมอยู่ไม่น้อยเลย หนังอาจจะมีกลิ่นอายความเป็น Internal Affairs อยู่บ้าง แต่ก็มีเรื่องราวที่เอกเขนกเป็นของตัวเองเช่นเดียว ฉากแอคชั่นและซีนบู๊ดุเดือดเหลือเกิน กลายเป็นหนัง 2 ชั่วโมงที่แทบจะเอียนฉากเหล่านี้ แต่ทุกฉากทำออกมาได้ดีและน่าประทับใจจริง ๆ นับว่าเป็นย่างก้าวใหม่ของนักแสดงสู่ผู้กำกับหนังที่ถือว่า ใช้ได้เลยกับผลงานเรื่องแรกของเขา
Hunt (2022) Watch Movie Hunt for Fake People: The hottest spy in the era of the sweltering Korean Peninsula. The situation can change every minute. With the best performances and directed by “Lee Jung Jae” Lee Jung-jae who is famous through the sky from The famous series Squid Game is a movie to watch. In terms of being a Korean action movie with a selling point, the charm of a spy in the 1980s when the heat of Korean peninsula politics still simmers.
Movie: Hunt (2022)
Type: Action
Director: Lee Jung Jae
Starring: Lee Jung Jae, Jung Woo Sung, Jeon Hye Jin, Heo Sung Tae
Length: 125 minutes
Scheduled for release in Thailand: 1 September 2022 (in cinemas)
After the top leader of North Korea asked for asylum South Korean intelligence chief Park Pyong-ho (Lee Jong-jae) and director of domestic affairs Kim Jong-do (Jong Woo-sung) are tasked with hunting down a North Korean spy dubbed Dong Li. m, which lurks deep in the organization When spies begin to release top-secret information that could shake the country. Two big organizations are forced to investigate each other. If they don’t find the culprit, they themselves may become the scapegoats in a plot that bets on the life and death of the South Korean president.
The film tells a flashback to the intense story of the past. Set against the backdrop of 80’s Korean society in which the dictatorship was in power. When the head of the international intelligence agency “Park Pyeong Ho” (played by Lee Jung Jae), who is recognized for both skill and credibility. Must come on a cunning mission with “Kim Jong Do” (played by Jung Woo Sung), the head of the National Intelligence Service. Both of them doubted the principle of the other.
until both had to be sent for espionage After it was reported that North Korean spy Dong Lim had been working in a government organization. to try to undermine South Korea But while investigating the spy Both Park Pyong Ho and Kim Jong Do have to investigate each other. Due to the incident, important people were assassinated. leading to slashing cunning to find the truth with the people and the security of the country at stake
It’s time for another movie that has been shown to receive great applause from last year’s Cannes Film Festival. With his debut work as the director of the first story of a young Korean actor who is hot on the international stage like “Lee Jung Jae” and this is the work that he is proud to present, “Hunt hunts fake people. “Brilliant with the hype-level action. that is distilled from the experience of people in front of the real movie industry Play in gear to hit the audience’s heart for 2 full hours.
Hunt for fake people is the story of Park Pyeong-ho and Kim Jong-do, both serving as national security agents. His job performance is quite stable and has been accepted by many parties. But it appears that the situation has changed. When a secret North Korean spy arrives on the South Korean side Forcing them to open fire and investigate the hidden truth, what exactly is it?
It is not exaggerated to want to rise to applaud the skill and style of filmmaking of Lee Jung Jae. He set himself a fairly high standard. From the work that comes out, it is clear that he has harvested and drawn from the experience that he has been in the industry for almost 30 years with more than 30 films to use in this movie with laziness and determination. Because he draws the point that the audience wants to see. Put the emotion that the audience will have to stick to the screen like they can’t go anywhere. Yes, these strategies have been put in place for almost all of this.
Considering that Lee Jung Jae passed the exam as a filmmaker from his first work. While looking at it as a whole, Hunt may not be the perfect action movie, but at least it meets the audience’s needs and inevitably captures the mood of the audience. He also co-wrote the script for the film himself. It can be called almost every role in this movie. So we have seen the work of his dedication. Through the design of cool scenes, sharp phrases and highlights that can be said that boiling from the first minute of the movie
Still, there are things that are less impressive about Hunt. The composition of the script is quite detailed. There are many characters. The rhythm of the narrative may help build the audience’s mood over time. But the movie gives the mood like a graph that goes up and down often. Although the situations in the movie are not boiling at all. But I feel that the direction of the story and the narrative still don’t go as smoothly as they should. But it’s not the weak point of the movie in any way.
Another thing that’s a little off-putting is Hunt’s film montage, Hunt for Fake People, which, in a bit, will make viewers feel dizzy. Camera angles are not bad. Only the rhythm of the editing is flashy back and forth. It’s like stuffing a lot of footage in such a way that some scenes don’t even need to be cut. That’s where the feeling of the film was that it wasn’t very concise. If the storytelling and editing rhythms were polished, it could fit in more. Cut it out for about 10 minutes. It should be closer to being great.
On the acting side, there’s not much to say, just having Lee Jung Jae and his best friend “Jung Woo Sung” orbiting together on the same movie screen. What else must be described? Because they were all the best Korean heroes of the same generation. Different people have leveraged inner and veteran skills in the industry to blow fire at each other like no one is willing. Other supporting actors are “Jon Hye Jin” or “H