Attack on Titan Part 2 (2015) ศึกอวสานพิภพไททัน ดูหนัง เพิ่งได้ไปดูและก็ดุด่า “Attack on Titan Part I : ผ่าปฐพีไททัน” เมื่อเดือนที่ผ่านมาหยกๆเผลอแป๊บๆเพียงแค่เดือนเดียว บริษัทหนังก็เชิญชวนพวกเราไปดูภาคจบ “Attack on Titan 2 : End of the World ศึกอวสานโลกไททัน” ให้ได้ด่าทอต่ออย่างสม่ำเสมอ
เรื่องราวการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดของมนุษยชาติชาติ ที่จำเป็นต้องอาศัยและก็ปกป้องตัวเองข้างหลังกำแพงใหญ่โตมโหฬารจากเชื้อสายไททัน เมื่อ เอเรน (ฮารุมะ ไม่อุระ), มิคาสะ (คิโกะ มิสุฮาระ) แล้วก็สหายที่รอดตายจากสนามรบรับทราบแผนเหี้ยมโหดของนายพล ศัตรูตัวฉกาจบางทีอาจไม่ใช่แค่ ไททัน ทั้งความลับดำมิดหมีของตัวเอเรน อย่างเดียวผู้จับชะตาโลกก็กำลังเผยเร็วนี้ๆ
แล้วก็การพบเจอครั้งสำคัญระหว่างผู้รอดพ้นจากความตายแล้วก็ ไททัน มโหฬารกับข้อสรุปของมหาการสู้รบเพื่อมนุษยชาติ ภายหลังที่ Eren, Armin, Mikasa, และก็เหล่าเพื่อนพ้องรอดตายจากสนามรบไททันมาได้ ในภาคนี้ทุกคนจะได้พบว่าศัตรูตัวฉกาจของเรามิได้มีเพียงแค่ไททันแค่นั้น ซึ่ง Eren จะเป็นกุญแจสำคัญสำหรับเพื่อการต่อสู้กับไททันแล้วก็จับชะตาเพื่อนมนุษย์เอาไว้
ที่มองเห็นเขียนเรื่องย่อสั้นๆนี่ไม่ใช่ไม่ใส่ใจนะ แต่ว่าไม่เคยรู้จะเขียนอะไรให้จริงๆด้วยเหตุว่าเรื่องราวมันเกือบจะไม่มีอะไรเลย เรื่องราวเบาเหวง เล่าก็น่ารำคาญ แต่ว่ายังดียิ่งกว่าภาคแรกนิดหน่อยก็ตรงที่เงื่อนหรือความงวยงงในภาคแรกถูกเฉลยคำตอบคลี่คลายแจ่มแจ้ง (เพียงแค่ได้รับรู้ว่าไททันขยายพันธุ์อย่างไร ก็ตายตาหลับละ) และก็ฉากบู๊แอ็คชั่นก็ยอดเยี่ยมแกรนด์กว่าภาคแรกพอควร
ยักษ์ไททันในภาคนี้มองแพงขึ้นละ เป็นไม่ใช่มีแม้กระนั้นผีเปรตวัดสุทัศน์ละ ภาคนี้จะมีแต่ว่าระดับตัวบิดา ที่ใหญ่มากยิ่งกว่า แข็งแรงกว่า ฉลาดหลักแหลมกว่า แล้วก็ตายยากกว่าหลายเท่า ประกอบกับภาคนี้จะมิได้มีเพียงแค่ฉากมนุษย์วิ่งหนีหรือเพียรพยายามสู้กับไททันอย่างทึ่มๆละ แต่ว่าจะย้ำไปที่ไททันดีสู้กับไททันชั่วช้า ราวกับยอดมนุษย์อุลตร้าแมนสู้กับก๊อตสิลล่ากึ่งกลางเกาะฮาชิมะ (ยืมคำเปรียบเทียบจากพี่แอดแมว)
สำหรับ “Attack on Titan 2 : End of the World ศึกอวสานโลกไททัน” ส่วนตัวเห็นว่า หนังมีดีเพียงแค่ใบหน้าผู้แสดงนำชาย นางเอก พระรอง และก็นางรอง และก็เพลงตอนสุดท้ายตอนขึ้นเครดิตที่เสมือนจะเพราะว่า ส่วนเรื่องราว เสมือนเขาก็บากบั่นแทรกสอดสาระนะ แม้กระนั้นท้ายที่สุดก็ไม่ได้อะไร ทั้งยังในทางสาระรวมทั้งความรื่นเริงใจ
อ่อ แต่ว่าความรื่นเริงใจ จะมีพี่สาวหัวหน้าคนนึงที่บ้าๆบอๆเขมือบซีน เล่นใหญ่มากกว่าดารารัชดาลัยเธียเตอร์ ซึ่งบางคราวก็เฮฮา บางคราวก็รู้สึกแอบหงุดหงิดรำคาญนางกำนัลขณะเดียวกัน นักแสดงหลักที่เหลือในภาคนี้โอเคขึ้น เก่งขึ้น เป็นประโยชน์ขึ้น สงสัยเพราะว่าที่ทึ่มๆเป็นจำนวนมากตายโหงไปหมดแล้วตั้งแต่ภาคแรก (อิชั้นจะไม่พูดว่าผู้แสดงมันเติบโตจากภาคแรก อิชั้นไม่คิดว่าหนังมันทำเป็นอย่างงั้น)
โดยรวมภาคนี้มันก็ดีแล้วกว่าภาคแรกนะ แต่ยังไงมันก็ยังห่วยแตกอยู่ดี ไม่มีอะไรจะวิภาควิจารณ์มากมาย ด้วยเหตุว่าด่าทอตอนเขียนบล็อกภาคแรกไปหมดแล้ว (บล็อก “Attack on Titan Part I : ผ่าโลกไททัน” ) หนังมันป๊วยเจ็บป่วย เอาเวลาไปอ่านบล็อกเรื่องอื่นของพวกเรา หรือไปดูหนังเรื่องอื่นแทนจะมีคุณค่ามากยิ่งกว่า
แต่ว่าถ้าเกิดคนใดกันแน่ต้องการจะเข้าไปมองให้มันจบๆไปแบบพวกเราก็ได้ จะได้ทราบสึกไม่ค้างคาใจ หนังก็ยาวเพียงแค่ไม่ถึงชั่วโมงครึ่ง แถม 5 นาทีแรก ก็ย้อนฉากความเดิมในตอนที่แล้วให้พวกเราจำพวกหมดม้วน (จริงๆไม่สมควรทำแยกเป็นสองภาคตั้งแต่ต้น เค้าควรจะจัดสิ่งที่เวิ่นเว้อออก แล้วทำเพียงแค่ภาคเดียวจบ บางทีก็อาจจะพีคกว่านี้ คหสต)
จริงๆต้องการจะให้สอบตก แต่ว่าก็กัดฟันให้แต้มที่ 6/10 (เป็นจริงๆอยากที่จะให้น้อยกว่านี้ แม้กระนั้นในภาคแรก พวกเราดันให้ไปตั้ง 5.75 // เป็นขณะนั้นให้ 5.75 เนื่องจากนึกว่า ตนเองทึ่มมองไม่รู้เรื่องเอง แบบว่าพวกเราไม่เคยมองอะนิเมะหรืออ่านมังงะมันมาก่อนยังไง แม้กระนั้นมารู้คราวหน้าว่าไอ้ผู้ที่เป็นแฟนอะนิเมะกับมังงะมันยังเกลียดชังหนังเลย โอ้โห ต้องการจะปรับคะแนนให้น้อยกว่า 5)