Ant-Man and the Wasp Quantumania (2023) แอนท์‑แมน และ เดอะ วอสพ์ ตะลุยมิติควอนตัม ดูหนัง หนังจะเรื่องราวสานต่อในสิ่งที่เกิดขึ้นกับ สก็อต แลง ที่ร่วมทีมด้วย โฮป แวน ไดน์, แฮงก์ พิม, เจเน็ต แวน ไดน์ และลูกสาวของเขา แคสซี่แลง ที่พวกเขาทั้งหมดจะร่วมออกผจญภัยไปด้วยกัน หลังจากที่ได้หลุดเข้าไปสู่ควอนตัม โลกที่เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตน่าพิศวงมากมาย และหนึ่งในนั้นคือ แคงผู้ชิต
ในภาคนี้จะเล่าถึงการเสี่ยงภัยสุดวุ่นวายครั้งใหม่ที่เริ่มขึ้นเมื่อ แคสซี แลง บุตรสาวของ สกอตต์ และก็ แม็กกี้ แลง ได้ศึกษาค้นพบแนวทางส่งสัญญาณถึงมิติควอนตัม (Quantum Realm) แต่ว่านอกเหนือจากที่จะศึกษาและทำการค้นพบแล้ว พวกเขาทั้งผองยังหลุดเข้าไปสู่โลกของควอนตัมนั้นด้วย ที่ในโลกนั้นมีสิ่งมีชีวิตเยอะแยะ รวมถึง แคง ผู้ชนะ (โจนาธาน เมเจอร์ส) ที่เป็นผู้ดูแลมิติควอนตัมที่นี้ และก็การที่พวกเขาทั้งหมดทั้งปวงนั้นจะกลับสู่โลกเดิมได้ ก็จะต้องปฏิบัติตามคำร้องขอของแคงที่ยังไม่เปิดเผย
จักรวาลภาพยนตร์ของ Marvel Studios หรือ MCU (Marvel Cinematic Universe) ได้เดินทางมาถึงเฟสที่ 5 ในมหากาพย์มัลติเวิร์ส (Multiverse Saga) เป็นที่เป็นระเบียบแล้วล่ะครับผม ซึ่งอย่างที่เข้าใจดีว่า พอเพียง MCU เข้าเฟส 4 ข้างหลังจบ ‘Avengers: Endgame’ (2019) ภาพรวมก็ออกมามองหงอยเหงาๆภาพรวมของธีมมัลติเวิร์ส ที่กะว่าจะเป็นลักษณะเด่นจุดขายก็แตะต้องได้ในระดับผิวๆมิได้มีเซอร์ไพรส์หรืออีเวนต์ใหญ่ๆแถมหนังแล้วก็ซีรีส์ในเฟส 4 ดูเหมือนจะทั้งหมดก็ดันเป็นหนัง Standalone ที่เน้นย้ำเปิดตัวฮีโรคนใหม่ (แล้วก็ภาคต่อฮีโรหน้าเก่า) เสียเป็นส่วนมาก กระทั่งเกือบจะคิดหาโมเมนต์ติดอกติดใจ Hype ขั้นร้ายแรงในเฟส 4 ไม่ค่อยออกจริงๆนะ
จนถึงมาถึงในปีนี้ที่เดินทางไปสู่เฟสที่ 5 เป็นระเบียบแล้ว รวมทั้งหนังตัวเปิดจักรวาลในเฟสนี้ก็คือหนังคนเดียวภาคที่ 3 ของ สก็อต แลง (Scott Lang) หรือแอนท์แมน (Ant-Man) ซูเปอร์ฮีโรพลังมด หนึ่งในสมาชิกฮีโร Avengers ที่ยังคงคงเหลืออยู่ ซึ่งในหนังลำพัง 2 ภาคแรกของเขาอีกทั้ง ‘Ant-Man’ (2015) และก็ ‘Ant-Man and the Wasp’ (2018) นั้นก็ชอบเป็นหนังที่ยืนพื้นสำหรับเพื่อการเป็นหนังรอมคอมแนวครอบครัว ผสมหนังโจรกรรมที่มีกลิ่นครื้นเครง ที่หากว่าบางทีอาจจะมิได้เปรี้ยงปร้างเฉิดฉันได้พอๆกับหนังผู้เดียวซูเปอร์ฮีโรเจ้าอื่นๆแต่ว่าก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาอีกทั้งในหนังลำพัง รวมทั้งการปรากฏตัวในหนังรวมฮีโรต่างๆก็พิสูจน์ว่าแอนท์-แมนเองก็เป็นซูเปอร์ฮีโรที่ผู้คนจำนวนมากรักและก็ติดอกติดใจไม่น้อย
โดยในภาคนี้ก็ยังคงได้ เพย์ตัน รีด (Peyton Reed) ผู้กำกับจาก 2 ภาคแรกกลับมาควบคุมเหมือนปกติ แม้กระนั้นในฝั่งของนักเขียนบทมีการเปลี่ยนมือ โดยได้ เจฟฟ์ เลิฟเนสส์ (Jeff Loveness) คนเขียนบทแอนิเมชันซีรีส์สายปั่น ‘Rick and Morty’ ที่โดนจองตัวให้เขียนบท ‘Avengers: The Kang Dynasty’ ในเฟส 6 แล้วเป็นที่เป็นระเบียบเรียบร้อย พร้อมด้วยผู้แสดงชุดเดิมกลับมาแบบครบๆและผู้แสดงใหม่ๆรวมทั้งผู้แสดงเซอร์ไพรส์ที่ยังไม่รู้จักหน้าที่ นอกเหนือจากที่จะจะต้องไปดูในหนังกันเอาเอง
เรื่องราวของภาค ‘Quantumania’ นี้จะเล่าของ สก็อต แลง/แอนท์-แมน (Paul Rudd) ภายหลังที่เขาติดในมิติควอนตัม 5 ปี และก็หนีไปเป็น Avengers จนกระทั่งเปลี่ยนเป็นคนมีชื่อเสียง แต่งหนังสือขายดิบขายดี ไปไหนคนใดกันก็รู้จัก แต่ว่าจุดมุ่งหมายสูงสุดของเขาก็คือ การได้ใช้เวลาอยู่กับบุตรสาว แคสซี แลง (Kathryn Newton) สาวน้อยหัวเนิร์ดวัย 18 ปีที่ห้าวด่องๆจนถึงจำคุกมาแล้วบ่อยครั้ง ปัจจุบันนี้พวกเขาแปลงเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดในครอบครัวของ 2 ตายาย ดร.แฮงก์ พิม (Michael Douglas), เจเน็ต แวน ถางน์ (Michelle Pfeiffer) รวมทั้ง โฮป แวน ถางน์/เดอะ วอสพ์ (Evangeline Lilly) ที่แปลงบริษัท Pym Tech ให้แปลงเป็นมูลนิธิการบุญที่นำเอาเทคโนโลยีอนุภาคพิมมาช่วยเหลือผู้คน
วันหนึ่ง แคสซี ยัยถั่วต้ม ได้ประดิษฐ์วัสดุอุปกรณ์วิทยุซึ่งสามารถใช้ในการติดต่อสื่อสารกับมิติควอนตัม แม้กระนั้นเครื่องมือกำเนิดบกพร่อง ทำให้พวกเขาทั้งปวงหลุดเข้าไปในมิติควอนตัมที่เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตแปลกๆพวกเขาได้เจอกับ แคงผู้ชนะ (Jonathan Majors) ที่บังคับให้ แอนท์-แมน ตามหาบางอย่าง เพื่อแลกเปลี่ยนกับในตอนที่จะมีผลให้เขาได้อยู่กับบุตรสาว กับการเปิดเผยเรื่องราวของเจเน็ต ที่ยังคงเก็บความลับอะไรบางอย่างข้างหลังติดในมิติควอนตัมมานานกว่า 30 ปีเอาไว้
การผลัดไม้ของนักเขียนบทนั้นมีผลต่อเรื่องราวรวมทั้งโทนของหนังอย่างชัดเจนๆเลยขอรับ ส่วนหนึ่งส่วนใดก็น่าจะเป็นเนื่องจากว่าเพื่อสอดคล้องกับธีมความเป็นมัลติเวิร์สด้วยล่ะ โชคดีที่ในหนัง Ant-Man แล้วก็บรรดาหนัง Ant-Man and the Wasp Quantumania ทั้งหลายแหล่ได้ปูเรื่องชี้แนะ อนุภาคพิม (Pym Particles) รวมทั้งมิติควอนตัม (Quantum Realm) ให้รู้จักไว้มากพอควรแล้ว ผลก็คือ เว้นแต่ในภาคนี้จะตำเนินเรื่องไปได้เลยอย่างเร็ว กระชับ ไม่ต้องปูซ้ำให้เสียเวล่ำเวลาแล้ว ตัวหนังก็ราวกับครึ่งหนึ่งๆบังคับให้แปลงธีมจากรสหนังรอมคอมครอบครัวผสมโจรกรรมที่เกิดขึ้นใน 2 ภาคแรก เปลี่ยนเป็นหนังแอ็กชันเสี่ยงอันตรายที่มีความแฟนตาซีจัดๆกันไปเลย
ส่วนตัวคนเขียนเองละลานตากับมิติควอนตัมในเรื่องครับผม ด้วยเหตุว่ามันเกือบจะเป็นการเซตจักรวาลขึ้นมาเลย มิได้เพียงแค่โผล่มาเป็นกิมไม่กมัลติเวิร์สเฉยๆรวมถึงงานซีจีที่นับว่าสอบได้และก็ทำออกมาได้แฟนตาซีสุดกู่ไปเลย ในหนังพวกเราจะได้มองเห็นมิติที่ถูกแบ่งได้โซนๆได้มองเห็นสิ่งมีชีวิตและก็ถิ่นที่อยู่ที่ผิดตา ที่มีความฟั่นเฟือนแปลกแต่ว่าก็มีความละลานตาน่าดึงดูด นำพาไปสู่การเดินเรื่องของหนังที่มีทิศทางแปลกไปจากเดิม ทั้งยังการเสี่ยงภัยกับชนเผ่าแล้วก็สัตว์แปลกๆการเผชิญหน้ากับผู้มีอำนาจ แล้วก็การรวมพลังกันเพื่อต่อสู้ปฏิรูปกับอำนาจทารุณ ซึ่งพอสมควรไปครู่หนึ่ง ก็จะมีบางฉากในหนังและก็เส้นเรื่องบางจุดที่เชิญให้รำลึกถึงหนังหลายๆเรื่องแบบตะหงิดๆ
เอาที่ใกล้ที่สุดก็เช่นบรรดาหนัง ‘Avengers’ ผสม ‘Guardians of the Galaxy’ ฉากอื่นๆก็เชิญชวนให้ระลึกถึงหนังบางเรื่องอย่างอดคิดมิได้จริงๆทั้งยังพืชและก็สัตว์ที่แอบเหมือน ‘Avatar’ ความห้าวกระทั่งกำเนิดข้อบกพร่องระดับมัลติเวิร์สของแคสซีก็เชิญให้ระลึกถึงเหตุใน ‘Spider-Man : No Way Home’ (2021) ในตอนที่ฉากด้วยกันต่อสู้รบ ฉากชนเผ่า ฉากสนทนากับสัตว์ในควอนตัม และก็บรรดาน้อนๆที่ทั้งยังน่ารักน่าเอ็นดูและก็ผิดตานี่ก็ชักชวนให้รำลึกถึง ‘Star Wars’ ในเอพิไม่มีแฟนด้านหลังๆอย่าง ‘Star Wars: Episode VI – Return of the Jedi’ (1983) แล้วก็ ‘Star Wars: Episode IX – The Rise of Skywalker’ (2019) รวมถึงแคง แรงวที่มิติควอนตัม และก็กองทัพในโลกเปรียบเสมือนนี่ก็เชิญให้ระลึกถึง ‘Tron’ อยู่หน่อยๆ
ในตอนที่ตัวหนังก็สามารถผสมมุกฮาๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งมุกแนวไดอะล็อก แล้วก็จังหวะการเล่าเรื่องแบบปั่นๆกาวๆความหนืดหนาดย้วยย้ายบางสิ่ง ก็ยังชักชวนให้รำลึกถึงการ์ตูน ‘Rick and Morty’ นิดๆซึ่งแน่ๆว่ากลิ่นความฮาเหี้ยนๆในแบบ 2 ภาคแรกก็หายไปเยอะพอควร และก็การไม่มีสมาชิก 3 สั้นของลูอิสตามมาด้วย แม้กระนั้นก็ยังเพียงพอจะมีมุกบทสำหรับพูดแซมๆแกล้มๆให้ได้ฮา พร้อมทั้งมุกจังหวะเมืองนรกไม่ถูกที่ผิดทาง ที่นับได้ว่าเป็นงานถนัดของแอนท์-แมนก็ยังคงมีอยู่ ซึ่งก็จัดว่าทำออกมาได้แบบมองเพลิดเพลินๆได้เรื่องฮานิดกาวหน่อย ผสมแฟนตาซีละลานตาแล้วก็ความเล่นใหญ่เล่นโตมาแทน
ในทางนักแสดงจัดว่ากระจัดกระจายกันได้อย่างพอดีและก็มีเสน่ห์มากขึ้นเรื่อยๆจาก 2 ภาคแรกครับ โดยยิ่งไปกว่านั้นการแบ่งผู้แสดงออกเป็น 2 เส้นเรื่อง แม้กระนั้นสิ่งที่จำต้องเอ๋ยถึงสูงที่สุดก็อาจจะหนีไม่พ้นคนร้ายอย่าง แคงผู้ชนะ (Kang the Conqueror) ที่สวมบทโดย โจนาธาน เมเจอร์ส (Jonathan Majors) ที่อุตส่าห์ใบเสร็จรับเงินต์กันเป็นการใหญ่ว่านี่จะเป็นตัวร้ายประจำ Saga ที่ชั่วร้ายมากกว่าธานอส ถ้าเกิดเอาในทางการแสดง ก็จะต้องใช้คำว่า “มาร์เวลโชคดีที่มี โจนาธาน เมเจอร์ส” จริงๆเพราะเหตุว่าเขาสามารถถ่ายทอดความเป็นแคงได้มีเสน่ห์ น่ายำเกรง มีความเป็นเจ้าพ่อมาดเข้ม กะล่อน แม้กระนั้นเวลาโหดเหี้ยมก็ใส่แบบเดือดๆแบบเดียวกัน และก็ฉากต่อสู้นี่ก็พูดได้ว่า พี่แคงมึงเป็นมวย เนื่องจากให้ความรู้ความเข้าใจสึกเสมือนกำลังดูหนัง ‘Creed’ อยู่เช่นเดียวกันนะ
แต่ว่าจะว่าก็ว่าเหอะ สำหรับคนเขียนเห็นว่า ความน่าสยดสยองของแคงก็นับว่ายังไม่เกินความคาดหวังครับ เป็นหากใครกันแน่พอเพียงติดตามธีมมัลติเวิร์ส หรือมองซีรีส์ ‘Loki’ (2021) มาแล้ว ก็พอเพียงจะคาดคะเนได้ว่าแคงนั้นอันตรายในระดับมัลติเวิร์สได้ยังไง แล้วก็ถือได้ว่าตัวร้ายที่มีเหตุมีผลบางสิ่งในแบบอย่างของ Marvel นั่นแหละ แต่ว่าคนร้ายอีกตัวที่นักเขียนต้องการกล่าวถึงก็คือ โมด็อก (Corey Stoll) นั่นก็คือ แดเรน ครอส หรือ เยลโลว์แจ็กเก็ต (Yellowjacket) คนร้ายที่โดนบีบอัดไฟล์ .zip ไปแล้วในภาคแรก (5555+) ซึ่งมองเห็นชั่วร้ายๆฟั่นเฟือนๆอย่างนั้น แต่ว่าลักขโมยซีนเรียกฮาเรียกยิ้มได้หลายขยักอยู่นะ
แน่ๆว่าตัวหนังเองก็ยังมีจุดพิจารณาอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเดินเรื่องอย่างเร็วตลอดเรื่อง ในอีกด้านหนึ่งมันก็ทำให้ตัวหนังมีความรวบรัดตัดตอนในบางจุดคล้ายภาคแรก โดยยิ่งไปกว่านั้นข้อสรุปเรื่องแท้จริงๆทำเป็นออกจะดีเลยจ๊ะครับผม แม้กระนั้นมันก็แอบมีจังหวะรีบทำเวลาจบอยู่ดี รวมทั้งโน่นก็ส่งผลเสียให้การย้ำดราม่าหลักสำคัญครอบครัว (ที่มีตั้ง 2 ครอบครัวเลยค่ะตอนนี้) ยังขยี้ต่อได้ไม่ลึกนัก กระทั่งแอบไม่มีเสน่ห์ความเป็นหนังครอบครัวแบบ 2 ภาคแรกไปพอเหมาะพอควร แล้วก็การปูเรื่องความเป็นมาของแคง แล้วก็ความลับเกี่ยวกับมิติควอนตัมของเจเน็ต ในฐานะที่เป็นคนอยู่ในมิติควอนตัมมานาน 30 ปี ออกจะอ่อนกำลัง บางเบา และก็ส่งผลต่อเรื่องราวน้อยไปสักนิดสักหน่อย แล้วก็นักแสดงใหญ่ๆที่ถูกวางไว้เป็นปัญหา แม้กระนั้นเอาเข้าจริงก็มาไวไปไวมากมาย ใช้ไม่คุ้มกับบารมีศิลปินเสียแบบงั้นล่ะ
โดยรวมๆแล้ว ถ้าเกิดมองดูในฐานะหนังเปิดหัวเฟส ก็จะต้องถือได้ว่าแรงส่งไปสู่เฟส 5 ได้อย่างน่าดึงดูดรวมทั้งนับว่าไม่เลวครับ เป็นหนังที่ให้รสที่ไม่เหมือนกับ 2 ภาคแรกค่อนจะทั้งหมด แน่ๆว่ามันก็ยังมีความหลุดๆบ้าง แม้กระนั้นก็ยังเป็นหนังที่มีจังหวะที่ดี มองง่าย มองความแปลก ความสร้างสรรค์ พาผู้ชมเสี่ยงภัยมิติควอนตัมได้ละลานตาแล้วก็เต็มที่กว่าทุกๆภาค เป็นหนัง Marvel แกล้มป๊อปคอร์นที่มองได้แบบเพลิดเพลินๆรวมทั้งมีงานซีจีในระดับถูกใจ ซึ่งสามารถชี้แนะให้มองระบบ IMAX ได้ แล้วก็บรรดาสัตว์แปลกที่เด็กๆคงจะถูกใจ และก็ที่สำคัญเป็น โจนาธาน เมเจอร์ส ในบทแคงผู้ชนะ
ที่จะทวีความโหดเหี้ยมเพิ่มขึ้นกว่านี้ได้อย่างแน่แท้ เรียกว่าเป็นของดีประจำ Saga ไปแล้วล่ะ ขั้นต่ำๆก็เป็นแรงส่งไปสู่เรื่องราวในเฟส 5 ที่คงจะทวีความน่าดึงดูดใจขึ้น ถ้าเกิด Marvel ไม่ปลดปล่อยเหงาเสมือนเฟส 4 ไปเสียก่อนน่ะครับ ปล. มีฉาก End-Credits 2 ตัวครับผม รอดูได้เลย ตัวแรกนี่บอกได้เพียงแค่ว่า Avengers งานยากแน่ๆ ส่วนตัวที่ 2 นี่ก็เสนอแนะให้รอดูครับ มีกรี๊ดแน่ๆ แต่ว่าทั้งผองทั้งหมดทั้งสิ้นที่คนเขียนต้องการจะบอกก็คือ Marvel มีฉาก End-Credits ที่คุ้มแก่การกลั้นฉี่รอดูสักครั้งนะ ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาเฟส 4 นี่มีแม้กระนั้นอะไรก็ไม่เคยรู้
Ant-Man and the Wasp Quantumania (2023) Van Dyne, Hank Pym, Janet Van Dyne and his daughter Cassie Lang as they all go on an adventure together. after entering quantum A world full of amazing creatures and one of them is Kang Khuchchit
It tells the story of a new and chaotic adventure that begins when Cassie Lang, the daughter of Scott and Maggie Lang, discovers a way to signal the Quantum Realm. but in addition to studying and making discoveries All of them also slipped into that quantum world. There are many creatures in the world, including Kang Winner (Jonathan Majors) Ant-Man and the Wasp Quantumania who is in charge of the quantum realm here. Ant-Man and the Wasp Quantumania and that all of them will be able to return to the original world will have to comply with Khang’s request that has not yet been disclosed
The Marvel Cinematic Universe (MCU) of Marvel Studios is entering Phase 5 of the Multiverse Saga. Which, as it is well understood, is enough that the MCU entered Phase 4 after the end of ‘Avengers: Endgame’ (2019), the overall picture came out looking lonely. Which is expected to be a distinctive feature, the selling point can be touched at the surface level, there are no surprises or big events, plus the movies and series in Phase 4 seem to be all standalone movies that emphasize the debut of heroes new (And the sequel to the old hero) is mostly broken. Even almost thinking about finding a moment to be addicted to, the serious hype in Phase 4 doesn’t really come out.
Until arriving this year, traveling to Phase 5 is already organized. Including the movie that opens the universe in this phase is the third solo movie of Scott Lang or Ant-Man, an ant-powered superhero. One of the remaining Avengers heroes. His first two stand-alone films, ‘Ant-Man’ (2015) and ‘Ant-Man and the Wasp’ (2018), have always been groundbreaking films for family rom-coms. Mixed robbery leather with a pleasant smell. If it may not be as scorching as a single movie, other superhero, but before, in the past, and in the movie alone And his appearances in superhero movies prove that Ant-Man himself is a superhero that many people love and admire.
In this sector, Peyton Reed, the director of the first two films, is still able to return to normal control. However, the writers’ side has changed hands, with ‘Rick and Morty’ writer Jeff Loveness being hired to write ‘Avengers: The Series. Ant-Man and the Wasp Quantumania Kang Dynasty’ in Phase 6 already is tidy. Along with the original actors returning in full form and new actors including surprise actors who do not yet know their roles. In addition to having to go see the movie yourself.
story of the sector This ‘Quantumania’ tells the story of Scott Lang/Ant-Man (Paul Rudd) after he gets trapped in the quantum realm for 5 years and runs off to become the Avengers until he becomes famous. best selling books Wherever you go, everyone knows But his ultimate goal was Spending time with daughter Cassie Lang (Kathryn Newton), a nerdy 18-year-old girl who has often gone to jail. They are now part of the family of two grandparents, Dr. Hank Pym (Michael Douglas), Janet Van Thang (Michelle Pfeiffer), and Hope Van Thang/The Wasp ( Evangeline Lilly) who transformed Pym Tech into a philanthropic foundation that uses Pym particle technology to help people.
One day Cassie invents a radio material that can be used to communicate with the quantum realm. however, the generator is defective. Causing them all to slip into a quantum dimension filled with strange creatures, they meet Kang Victor (Jonathan Majors) who forces Ant-Man to find something. In exchange for the episode that will result in him living with his daughter. with the revelation of Janet’s story that still holds some secrets behind it stuck in the quantum dimension for more than 30 years
The screenwriter’s shedding of wood clearly affects the story and tone of the film. Part of it is likely to be in line with the multiverse theme. Thankfully, Ant-Man and the Avengers movies have already covered enough clues about Pym Particles and the Quantum Realm. The story can be carried out quickly and concisely without having to repeat it again and waste time. The movie is almost half forced to change the theme from the robbery family rom-com that happened in the first 2 parts to a dangerous action movie with a lot of fantasy.
Personally, the writer himself dazzled with the quantum dimension in the story. because it almost sets the universe up Not just appearing as a multiverse gimmick, including CG work that can be considered passable and can be made out of extreme fantasy. In the film, we will see dimensions that are divided into zones, seeing different creatures and habitats. with a strange frenzy Ant-Man and the Wasp Quantumania but also with an attractive dazzle Leading to the story of the movie that has a strange direction from the original as well as adventures with strange tribes and creatures, encounters with powerful people. and joining forces to fight reform against atrocities which is enough for a moment There will be some scenes in the movie and some plot lines that invite to reminisce about many movies.
The closest thing to that is ‘Avengers’ mixed with ‘Guardians of the Galaxy. The birth of Cassie’s multiverse flaw is also reminiscent of the events in ‘Spider-Man: No Way Home’ (2021), when the battle scenes, tribal scenes, conversations with the Quantum Beasts. m And those cute and quirky youngsters are reminiscent of ‘Star Wars’ in the fanless behind-the-scenes ‘Star Wars: Episode VI – Return of the Jedi’ (1983). ) and ‘Star Wars: Episode IX – The Rise of Skywalker’ (2019), including the force in the quantum dimension. And the army in this virtual world is a bit reminiscent of ‘Tron’.
When the movie can be mixed with funny jokes, especially dialog jokes. And then the rhythm of the story, spinning, glue, viscosity, bias, move something It still reminds me a little of the ‘Rick and Morty’ cartoons, of course, that the smell of fun in the first 2 parts has disappeared quite a lot. And the short absence of 3 members of Lewis followed.
Ant-Man and the Wasp Quantumania Still, it’s still enough to have some jokes to talk about while having fun. along with jokes about the rhythm of the city of hell which can be counted as Ant-Man’s specialty still exists Which is considered to be able to do it in a fun way to get a bit funny. mixed with dazzled fantasy and big play instead
In terms of the characters, they are evenly distributed and have become more and more attractive from the first 2 parts, especially the division of the actors into 2 story lines, but what must be mentioned the most may be It’s inevitable that the villain Kang the Conqueror, played by Jonathan Majors, is eager to claim that this will be the villain of the Saga, more evil than Tha.
Nos If it takes place in the show I have to use the word “Marvel is fortunate to have Jonathan Majors” really because he can portray a quirky, charming, formidable godfather, intense, glib, but when it’s brutal, it can be worn in a boiling way. same And this fight scene can be said that Kang is a boxer Because it gives a feeling of understanding like watching the movie ‘Creed’ as well
But whether that’s the case or not. for the author that The horror of Kang is still not beyond expectations. Who is it? It’s enough to follow the multiverse theme. Or looking at the series ‘Loki’ (2021), it’s enough to predict how dangerous Kang is in the multiverse level. And that could be considered a rational villain in Marvel’s fashion,
but the other villain the writers wanted to mention was Modoc (Corey Stoll), namely Darren Cross or Yellow. jacket (Yellowjacket) The villain that has been compressed in the. Ant-Man and the Wasp Quantumania zip file in the first part (5555+), which sees such evil. But stealing the scene, calling it funny, it can make you smile many times.
Of course, the movie itself still has quite a few considerations. Especially the fast pace throughout the story. On the other hand, it makes the movie have a succinct cut in some points, similar to the first part. In particular, the actual conclusion is actually quite good. However, it secretly had a hurry to complete the finish time anyway. And that has a negative effect on reiterating the main drama of the family (with 2 families now) still not able to crush deeply.
Even secretly lacking the charm of a family movie like the first 2 parts and then laying out the story of Kang’s origins And Janet’s quantum secret. As someone who’s been in the quantum realm for 30 years, it’s kind of flimsy, sparse, and has little impact on the story. And the big actors were put into trouble. However, in fact, it came very quickly. It’s not worth using the prestige of an artist like that.
Overall, if you look at it as an opening movie It must be considered that the force is sent to Phase 5 attractively, and it’s not bad. It’s a movie that gives a taste that’s not quite like the first 2 parts. Of course, there are still some slippages. Even so, it’s still a movie with good rhythm, easy to see, strange, creative. Take the audience to venture into the quantum dimension, dazzled and more than every installment.
It is a Marvel movie with popcorn that can be enjoyed and has CG work at a satisfactory level. Ant-Man and the Wasp Quantumania which can guide you to look at the IMAX system, and all the exotic animals that children might like. And most importantly, it’s Jonathan Majors in the role of the winner.
that will surely increase the savagery than this It’s called a good thing in the Saga. At least it’s a driving force to the story in Phase 5 that would be more interesting if Marvel didn’t let go of loneliness like Phase 4 first. P.S. There is a scene. 2 End-Credits, I can wait and see. The first one can only say that Avengers is a difficult task. Personally, the second is recommended to wait and see. There will definitely be screams, but all that the writer wants to say is Well, Marvel has an end-credits scene that’s worth holding back. Previously, Phase 4, this was there, but nothing was known.